คอลัมน์ ชกไม่มีมุม

วงค์ ตาวัน

ความจริง ผู้คนส่วนใหญ่ในสังคมไทย ที่ไม่ชอบแนวทางของธรรมกายและธัมมชโยนั้นมีมากมาย อย่างข้อหาที่ดีเอสไอและตำรวจใช้ดำเนินคดี เช่น ฟอกเงิน รับของโจร อันโยงมาจากการทุจริตเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนนั้น มีผู้เดือดร้อนและเสียหายจำนวนมาก

ไปจนถึงคดีรุกป่า ซึ่งมาจากการขยายสาขาอาณาจักร ก็เป็นที่รู้กันดีเห็นกันตำตาในหมู่ประชาชนในพื้นที่นั้นๆ รู้ด้วยว่าข้าราชการรัฐที่มีอำนาจหน้าที่นั่นแหละเอื้ออำนวยความสะดวกให้เป็นอย่างดี เพราะความเชื่อมั่นศรัทธา

สมควรดำเนินคดีแน่นอน!

แต่ปัญหาก็มาจากวิธีการ ที่ผิดพลาดตั้งแต่เริ่มต้น จนโกโซบิ๊ก

เป็นเพราะมีการตั้งเป้าหมายตั้งธงเอาไว้ล่วงหน้า โดยแกนนำบางคนในคสช. ที่เรียกกันว่าสายเหยี่ยว

พอหลังเข้ายึดอำนาจสำเร็จ ก็ตั้งคณะสืบสวนทำคดีเพื่อจะเอาผิดธรรมกายให้ได้ โดยลึกๆ มาจากอคติทางการเมือง มองว่าสำนักนี้ลัทธินี้เกี่ยวพันกับขั้วการเมืองตรงข้าม

พลาดตั้งแต่เริ่มก็เลยถลำลึกไปเรื่อย

สุดท้ายก็ต้องใช้อำนาจมาตรา 44 ประกาศพื้นที่ควบคุม เหมือนเวลาจะสลายม็อบขั้นเด็ดขาดนั่นแหละ

ภาพการระดมหน่วยปราบจลาจลตำรวจ สมทบด้วยหน่วยคุมฝูงชนของทหาร ใช้กำลังหลายพันนาย

โดนเสียดสีไปทั่วโลกออนไลน์ว่า นี่ไงขี่ช้างจับตั๊กแตน

แต่ก็น่าเห็นใจ เพราะยืดเยื้อมาข้ามปีขนาดนี้แล้ว ต้องถึงเวลาเผด็จศึกขั้นเด็ดขาดเสียที

เพราะก่อนหน้านี้เคยพยายามทุ่มกำลังเข้าตรวจค้นหนหนึ่ง แล้วโดนศิษย์ธัมมชโยเย้ยกลับว่า จะเข้ามอบตัวเมื่อมีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์เท่านั้น

พูดอย่างนี้รัฐบาลนายพลต้องหนวดกระดิกแน่นอน!!

เสียยี่ห้อรัฐบาลอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด หมดความน่าเกรงขามไปมากโข

ปฏิบัติการหนนี้ จึงตั้งเป้าว่า ต้องเอาให้จบ ต้องเข้าค้นธรรมกายได้ทุกจุดทุกตารางนิ้ว โดยใช้อำนาจมาตรา 44 เพื่อจัดการไม่ให้มีสาวกและศิษย์หลงเหลืออยู่ในพื้นที่ควบคุม

ไม่มีผนังทองแดงกำแพงเหล็กปิดกั้นอีกต่อไป

ต้องเอาตัวธัมมชโยมาดำเนินคดีให้ได้!

แต่ทั้งหมดนี้สะท้อนความเป็นรัฐบาลในยุคแบบนี้ ถนัดแต่ใช้อำนาจ จริงจังกับเรื่องความมั่นคง งัดแต่ไม้แข็งไม่มีไม้นวม

ทั้งๆ ที่ เป็นเรื่องของพระกับสาวกที่มีศรัทธาเชื่อมโยง แถมมีมวลชนอยู่หลายล้าน

สุดท้ายก็คงบังคับให้สยบได้สำเร็จ

แต่ก็จะเป็นอีกเรื่องที่สั่งสมความร้าวลึกจนอาจจะปะทุขึ้นมาใหม่ในภายภาคหน้า

เป็นอีกกรณีของการเปิดแนวรบด้านศาสนาที่เกิดในยุคคสช.!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน