เสรีภาพสื่อ ขณะกำลังจะเลือกตั้ง
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
เสรีภาพสื่อ ขณะกำลังจะเลือกตั้ง – มีนาคม เป็นวันนักข่าว ช่างพอดิบพอดีที่วันสำคัญของวงการสื่อมวลชนในวันนี้ มีเรื่องใหญ่ให้ต้องพูดคุยหารือกัน นั่นคือ กรณีที่เกิดเหตุการณ์ปลดพิธีกรสาวให้พ้นจากรายการดีเบตผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9
โดยเป็นคำสั่งจากบอร์ด “อสมท” ด้วยข้อหาเอนเอียงไม่เป็นกลาง
แต่ทุกคนรู้ดีว่า เป็นเพราะผลโหวตจากการดีเบตในรายการนั้น ไม่เป็นคุณกับฝ่ายผู้มีอำนาจทางการเมือง
ทั้งที่ผู้ดำเนินรายการก็ทำหน้าที่ไปตามปกติ ไม่ได้โน้มเอียงอะไร
อีกทั้งนี่คือทีวีช่อง 9 ซึ่งทำงานอย่างมืออาชีพมาตลอด ไม่ได้มีพิธีกรแสดงออกด้วยลีลาก้าวร้าวโน้มเอียงเหมือนทีวีหลายๆ ช่อง
เฉพาะผู้ดำเนินรายการคนนี้ ก็มีประวัติการทำงานหลายสิบปี ไม่เคยมีปัญหาผิดพลาดหรือแอบอิงขั้วการเมืองใด!
ดังนั้นการตัดสินของบอร์ดในการสั่งปลดผู้ดำเนินรายการสาวรายนี้ จึงมีแต่เสียงคัดค้าน มากกว่าจะมีใครสนับสนุน
แล้วเมื่อตรวจสอบรายชื่อบอร์ดก็พบว่า ประธาน มียศพล.อ.
จึงเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มเอาเสียเลย ส่งผลเสียหายต่อคสช.และรัฐบาลอย่างช่วยไม่ได้
ทั้งที่ก็อาจจะเป็นการตัดสินใจกันเองในบอร์ดอสมทเองเท่านั้น แต่เสียงวิจารณ์ก็พุ่งไปยังคสช.อย่างเต็มๆ
ความที่เข้าสู่บรรยากาศวันนักข่าวพอดี ซึ่งจะต้องเป็นวันแห่งการทบทวนและปกป้องรักษาเสรีภาพของวงการสื่อมวลชน
ต้องมีเสรีภาพอย่างเต็มเปี่ยมเพื่อทำหน้าที่เป็นปากเสียงชาวบ้าน เป็นกระจกสะท้อนสังคมได้อย่างตรงไปตรงมา!
เหตุการณ์ที่ช่อง 9 จึงเป็นปัญหาการใช้อำนาจแทรกแซงสื่ออย่างไม่ควรจะเกิด
แถมเป็นรายการที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ทั้งอยู่ในช่วงของการเลือกตั้ง ที่คนทั้งประเทศและคนทั่วโลกจับตามองว่า จะเป็นไปอย่างเปิดเผย ยุติธรรม มากน้อยเพียงใด
แต่เมื่อสื่อมวลชนที่กำลังทำรายการเลือกตั้งโดนแทรกแซงอย่างนี้เสียเอง ไม่เป็นผลดีเอาเสียเลย
ตอกย้ำถึงปัญหารัฐบาลในยุคที่ไม่ได้มาจากระบบประชาธิปไตย
แถมย้อนไปยังม็อบที่ก่อการจนบ้านเมืองเข้าสู่ทางตัน เปิดทางให้รัฐบาลพิเศษเข้ามาปกครองยาวนาน
ก็เป็นม็อบที่แสดงพฤติกรรมคุกคามสื่อ บังคับสื่อมวลชนให้เสนอข่าวตามความต้องการของม็อบอย่างน่ารังเกียจ!!
ทั้งจุดเริ่มต้นและกระบวนการนำมาสู่อำนาจยุคนี้ จึงมีปัญหาท่าทีที่ละเมิดเสรีภาพสื่อ
เมื่อเสรีภาพสื่อคือเสรีภาพของประชาชน
นี่คงจะเป็นเรื่องท้าทายสื่อมวลชนไทยใน วันนักข่าวนี้!