ต้องพิสูจน์ความจริง ใครเผาและใครฆ่า

คอลัมน์ ชกไม่มีมุม

วงค์ ตาวัน

ชกไม่มีมุม – ไม่ว่าจะเป็นวาทกรรมใส่ร้ายเผาบ้านเผาเมืองไปจนถึงคำปราศรัยของ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ว่าเผาไปเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง

ถึงวันนี้ วาทกรรมที่เป็นเครื่องมือทำลายทางการเมืองดังกล่าว สามารถคลี่คลายได้แล้ว

ด้วยข้อเท็จจริงที่ผ่านกระบวนการพิสูจน์พยานหลักฐานในศาล และคำพิพากษาของศาล

โดยล่าสุดที่เพิ่งตัดสินว่า 24 แกนนำนปช. ไม่มีความผิดในข้อหาก่อการร้าย จากการจัดชุมนุมเมื่อปี 2535 เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยุบสภา

เพราะที่กล่าวหาว่า ใช้ความรุนแรง สะสมอาวุธ มีกองกำลัง เอาเข้าจริงๆ ไม่มีพยานหลักฐานเป็นเรื่องเป็นราวอะไรเลย

ภาพรวมของการต่อสู้เพื่อเรียกร้องยุบสภา เป็นการใช้สิทธิตามวิถีประชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญ

จึงไม่ใช่การก่อการร้าย

ในคำพิพากษายังชี้ด้วยว่า คำปราศรัยของนายณัฐวุฒิที่ว่า เผาไปเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง ที่มีการนำมาโยงกับเหตุเผาห้างในวันที่ 19 พฤษภาคม 53 นั้น

ศาลชี้ว่า เป็นคำกล่าวของนายณัฐวุฒิบนเวทีที่เขาสอยดาว จันทบุรี เมื่อเดือนมกราคม 53 ในบรรยากาศที่กำลังมีข่าวลือรัฐประหาร

เป็นคนละเรื่อง คนละประเด็นต่อสู้ และคนละเวที

ไม่เกี่ยวกับการชุมนุมเรียกร้องยุบสภา ที่ ราชประสงค์ และไม่เกี่ยวกับการเผาย่านราชประสงค์!

นอกจากนี้ การเผาที่ห้างสรรพสินค้า ในบ่ายวันที่ 19 พฤษภาคม 53 หรือวันที่ศอฉ.เข้ายึดราชประสงค์นั้น

ศาลชี้ด้วยว่า การเผาเกิดขึ้นหลังจากม็อบของนปช.สลายตัวแล้ว แกนนำผู้ชุมนุมถูกควบคุมตัวไปคุมขังหมดแล้ว

ไปจนถึงเคยมีคำพิพากษาที่ศาลตัดสินยกฟ้อง จำเลยเสื้อแดง พ้นจากข้อหาเผาวางเพลิงดังกล่าวไปแล้ว

การเผาห้างและอาคารในย่านนั้น เมื่อข้อเท็จจริงพบว่า ไม่ใช่ฝีมือนปช. รวมทั้งไม่ได้มาจากการพูดจาของนายณัฐวุฒิ

ดังนั้นควรค้นหาต่อไปว่าใครคือผู้เผาตัวจริง ใครสั่งและทำเพื่ออะไร!?

ไปจนถึงใครที่ลงมือฆ่าคนชุมนุมในครั้งนั้น ตายไป 99 ศพ

คนฆ่าและคนเผาตัวจริง ควรต้องพิสูจน์ทราบให้ได้

เคยมีผู้วิเคราะห์ว่า ถ้าชัดแล้วไม่ใช่ฝ่ายผู้ชุมนุมทำ

ก็น่าจะมองออกว่าฝ่ายไหนทำ

เป็นไปได้มาก ที่ต้องการสร้างภาพการก่อการร้ายให้ดูสมจริงสมจังขึ้น!?!

อ่าน –

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน