ความเหลื่อมล้ำ ทางความยุติธรรม
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
โดย วงค์ ตาวัน
ความเหลื่อมล้ำทางความยุติธรรม – บรรยากาศการประชุมสภาผู้แทนฯนัดพิเศษ 18 กันยายน น่าจะให้อะไรต่อมิอะไรมากมายกับประชาชนคนไทยที่ฟังและดูจากการถ่ายทอดสด ซึ่งฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่อย่างสมน้ำสมเนื้อ และได้ฟังคำชี้แจงอย่างสุดวิจิตรพิสดารจากรองนายกฯวิษณุ เครืองาม
สมกับฉายา“บิดาแห่งการยกเว้น”อย่างแท้จริง
การอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ในประเด็นการกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน ของนายกฯและครม. รวมทั้งกรณีแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาไม่เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ไม่มีแหล่งที่มาของรายได้
ผ่านพ้นไปแล้ว โดยอาจไม่มีผลทำให้นายกรัฐมนตรีลาออก หรือปรับครม.ใหม่ ตามที่ฝ่ายค้านนำเสนอ เพื่อให้ปัญหาการถวายสัตย์ไม่ครบถ้วน ได้รับการแก้ไขใหม่ให้ถูกต้อง
แต่ส่งผลทางการเมืองไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะบทสรุปจากนายสุทิน คลังแสง แห่งพรรคเพื่อไทย ตัวแทนอภิปรายสรุปของฝ่ายค้านที่ชี้ให้ชาวบ้านคิดต่อไปว่า
ได้เกิดบาดแผลในใจประชาชนขึ้นอีกครั้ง ได้เกิดความเหลื่อมล้ำทางกฎหมาย ความเหลื่อมล้ำทางยุติธรรมอีกครั้ง!
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯที่ตกเป็นเป้าของการอภิปรายครั้งนี้ ได้นั่งฟังในที่ประชุมสภายาวนานพอสมควร
แต่ก็ฟังไม่จบ และไม่ลุกขึ้นตอบในประเด็น ถ้อยคำในการถวายสัตย์ไม่ครบถ้วน
มอบหมายให้นายวิษณุเป็นผู้ชี้แจงแทน
ซึ่งนายวิษณุก็ได้อธิบายอย่างหยดย้อย แต่ก็ไม่ตอบ ประเด็นหลักที่ฝ่ายค้านซักถามคือ ทำไมจึงกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ!?
จุดสำคัญที่นำมาเน้นย้ำก็คือ การถวายสัตย์ปฏิญาณนั้นเป็นเรื่องระหว่างคณะรัฐมนตรีกับองค์พระมหากษัตริย์ เสมือนว่าขั้นตอนจบสิ้นสมบูรณ์แบบแล้ว
แต่ก็มีคำถามจากนายปิยบุตร แสงกนกกุล แห่งอนาคตใหม่ที่ว่า จากนี้ครม.ชุดต่อไปจะกล่าวคำถวายสัตย์ไม่ครบก็ได้หรือไม่!
รวมทั้งนายสุทิน คลังแสง ก็ยืนยันว่า ทั้งหมดนี้รัฐบาลไม่ได้ตอบคำถามว่า ทำไมจึงกล่าวไม่ครบ
เท่ากับว่านี่คือการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ขึ้นมา โดยพล.อ.ประยุทธ์และนายวิษณุ
นั่นคือ ไม่กล่าวตามที่บัญญัติเอาไว้ในรัฐธรรมนูญก็ได้ ไม่เป็นไร อยู่ได้ต่อไป ใช่หรือไม่
พร้อมกับข้อเปรียบเทียบที่ว่า ถ้าเปลี่ยนเป็นรัฐบาลอื่น เป็นนายกรัฐมนตรีคนอื่น ที่เป็นอีกฟากฝ่าย
ถ้าเกิดปัญหาแบบเดียวกันนี้ รับรองได้ว่า แหลกเป็นจุณไปแล้ว
บทสรุปนี้ ก็คงตรงกับความรู้สึกของประชาชนคนฟังจำนวนมาก
สังคมไทยเรายังหนีไม่พ้นปัญหา 2 มาตรฐาน
พร้อมกับประเด็นการวิพากษ์วิจารณ์หลังจากสภาวันที่ 18 กันยายนก็คือ
บัดนี้ได้เกิดความเหลื่อมล้ำทางกฎหมาย ทางความยุติธรรม ใช่หรือไม่!?