ยิ่งปกปิด-ยิ่งท้าทาย ความจริงเดือนตุลา
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
ความจริงเดือนตุลา – ในยุคที่คนรุ่นใหม่ตื่นตัวทางการเมืองอย่างสูง สนใจเรียนรู้และพร้อมจะร่วมผลักดันบ้านเมืองให้ก้าวไปข้างหน้า ไม่ยอมเดินถอยหลังตามแนวทางของกลุ่มอำนาจอนุรักษนิยมการเมือง
ไปดูในโลกโซเชี่ยลระยะนี้ จะพบว่า กระแสเดือนตุลาคมกำลังร้อนแรงอย่างมาก!!
คำถามจากคนรุ่นใหม่ก็คือ ทำไมจึงไม่มีบันทึกประวัติศาสตร์อย่างเป็นทางการและครบถ้วน
ทั้ง 14 ตุลาคม 2516 และ 6 ตุลาคม 2519 ผ่านมาแล้ว 46 ปี และ 43 ปี กลับไม่มีการรวบรวมบันทึกให้เป็นเรื่องเป็นราว
สะท้อนให้เห็นว่า ผู้มีอำนาจไม่อยากให้จดจำเรียนรู้กัน ต้องการให้เลือนไปตามกาลเวลา
แต่ยิ่งเข้าทำนอง อยากให้ลืมกลับยิ่งมีคนจำ ยิ่งเก็บยิ่งสนใจขุดคุ้ย!
ความที่คนรุ่นใหม่ในยุคนี้ อยู่ในยุคดิจิตอล การสืบค้นข้อมูล ไม่ใช่เรื่องยาก แถมเก่งกาจสามารถในการเปรียบเทียบตรวจสอบ
ไหนข้อมูลจริง ไหนข้อมูลเท็จ ตรวจเช็กกันได้
14 ตุลาคม 2516 เป็นวันประวัติศาสตร์ ที่คนหนุ่มสาววัยเรียน นิสิต นักศึกษา ร่วมกับประชาชนลุกขึ้นล้มรัฐบาลเผด็จการทหาร
เป็นวันยิ่งใหญ่ที่คนหนุ่มสาวนำประชาชนลุกขึ้นมาเพื่อนำประเทศไปสู่ประชาธิปไตย
แต่กลุ่มผู้กุมอำนาจ คงไม่อยากให้วันลุกฮือของผู้คนเกิดอีก เลยพยายามลบเลือนประวัติศาสตร์
6 ตุลาคม 2519 คือวันกวาดล้างขบวนการนักศึกษาประชาชน ที่เติบโตต่อเนื่องจาก 14 ตุลาคม ด้วยความหวาดระแวง กลัวการเปลี่ยนแปลง
เป็นวันประวัติศาสตร์ของการเข่นฆ่าโหดร้ายอำมหิต เลยยิ่งต้องปกปิด กลบเกลื่อน!!
ทั้งวันแห่งชัยชนะในการลุกขึ้นต่อสู้ของประชาชนในปี 2516 และวันเศร้าสลดปี 2519 แต่ทำให้นักต่อสู้ทั้งหลายได้บทสรุปจากความรุนแรงนองเลือดนั้น
ทำให้เป็นวันเวลาที่ยากจะลบล้างได้
เข้าทำนองไม่มีใครเอาฝ่ามือปิดท้องฟ้าได้ คนรุ่นใหม่ในวันนี้จึงเข้าถึงความจริงได้ไม่ยาก
เพลงแร็พของเด็กรุ่นใหม่ ประเทศกูมี ใช้ฉากสำคัญในวัน 6 ตุลาฯ ตรงใจสะเทือนใจคนหนุ่มสาวในยุคนี้
ฉากที่คนคิดต่างถูกเอามาแขวนคอกับต้นมะขามสนามหลวง ท่ามกลางวงล้อมของไทยมุงที่ถูกปลุกปั่นให้ เกลียดชังเพื่อนมนุษย์
ยืนยิ้มร่า ดูคนเอาเก้าอี้ฟาดใส่ร่างที่ถูกแขวนคอ
แต่คนรุ่นใหม่วันนี้ ดูแล้วเศร้า และเข้าใจความจริง ไม่มีใครยิ้มหรือมีความสุขกับภาพนั้น
และจะกลายเป็นพลังเพื่อผลักดันสังคมให้ก้าวไปข้างหน้า หลังจากเสียเวลาถอยหลังจนล้าหลังในช่วงขัดแย้งสิบปีมานี้!
