สะเทือนครบวงจร

ชกไม่มีมุม

วงค์ ตาวัน

เมื่อคำสั่งหัวหน้าคสช.และอำนาจตามมาตรา 44 ที่บังคับห้ามนั่งท้ายกระบะรถปิกอัพและ ในแค็บนั้น สุดท้ายได้ยอมผ่อนปรน เลื่อนการตรวจจับออกไปก่อน ในช่วงสงกรานต์ยังนั่ง กันได้

คนทั้งหมู่บ้านยังร่วมกันเดินทางไปทำบุญ ไปกราบไหว้ญาติผู้ใหญ่ ด้วยปิกอัพคันเดียวกันได้

แต่หลังจากผ่านพ้นเทศกาลนี้แล้ว อะไร จะเกิดขึ้น!?

มาตรการนี้จะกลับมาบังคับใช้เหมือนเดิม หรือไม่ และเมื่อไร

เป็นประเด็นที่ค้างคาอยู่

ในช่วงเทศกาลหยุดยาว เราจะได้ยินคำถามนี้จากชาวบ้านทั่วไปอย่างกว้าง!

ด้านหนึ่งดีใจที่คสช.รับฟังเสียงสะท้อน เลยยอม ผ่อนปรน

แต่อีกด้านก็กังวลว่า แล้วหลังจากนี้ จะเป็นอย่างไรแน่

แล้วคงไม่ใช่แค่ชาวบ้านที่ใช้รถกระบะ ต้องเตรียม รับสภาพในทันทีที่คำสั่งนี้กลับมาอีก

แต่ยังรวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจรถกระบะ ทุกระดับด้วย!

ทั้งระดับโรงงาน ระดับตัวแทนจำหน่ายใหญ่ ตัวแทนจำหน่ายรายย่อย โชว์รูม ศูนย์ซ่อม อื่นๆ อีกมากมาย

ที่จะต้องเตรียมรับผลพวงที่ตามมาจากคำสั่งของคสช. ฉบับนี้

เพราะหากกลับมาบังคับใช้อีก จะต้องมีผลกระทบ ไปทั่วทุกส่วน อย่างขนานใหญ่

ชาวบ้านที่ซื้อปิกอัพรุ่นที่เข้าข่าย จะต้องตัดสินใจว่า จะใช้รถนี้ต่อไปหรือไม่

โรงงานผลิต ตัวแทนจำหน่ายรถ ก็ต้องคิดหนัก

สะเทือนทั้งวงจร เขย่าเศรษฐกิจขนานใหญ่!

ดังนั้น จึงเริ่มมีเสียงเรียกร้องจากชนชั้นชาวปิกอัพที่มีอยู่มากมาย รวมทั้งเสียงจากผู้ผลิต ผู้จำหน่ายรถ

ไม่ควรแค่เลื่อนเวลาบังคับใช้

แต่ควรทบทวนทำความเข้าใจให้ชัด จะเลิกคำสั่งนี้ไปเลยหรือจะใช้เมื่อไร?

น่าจะต้องมีความชัดเจน

รวมทั้งผู้มีอำนาจควรสรุปบทเรียนด้วยว่า ก่อนหน้านี้ทำไมจึงต้องชะงัก!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน