ตัวการปลุกปั่น เยาวชนปลดแอก – เป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่รัฐบาลจะต้องสอดส่องหาเบื้องหน้าเบื้องหลัง ว่ากลุ่มเยาวชนปลดแอกที่ออกมาชุมนุมเคลื่อนไหว มีใครเป็นผู้ชักใย ท่อน้ำเลี้ยงมาจากไหนอะไรทำนองนี้ แถมล่าสุดการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษา ก็เริ่มขยายวงออกไปเป็นแฟลชม็อบตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพิ่มกระแสต่อต้านรัฐบาลให้ร้อนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่อย่าลืมว่า การตรวจสอบที่มาที่ไปของม็อบนักศึกษา ต้องอยู่บนพื้นฐานข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริง
ไม่ใช่หาอะไรไม่ได้ คิดอะไรไม่ออก ก็โยนใส่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไปจนถึงพรรคก้าวไกล อะไรเหล่านั้น!?
ที่สำคัญต้องไม่ลืมดูด้วยว่า การกระทำของรัฐบาลเองหรือของกลุ่มอำนาจในยุคนี้ เป็นชนวนให้เกิดความไม่พอใจ จนเกิดการต่อต้านดังกล่าวหรือไม่
หากคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไป จะนำไปสู่การประเมินสถานการณ์ผิดๆ และแก้ปัญหาผิดๆ
อันอาจจะทำให้ทุกอย่างยิ่งบานปลายไปกันใหญ่!
พูดกันจริงๆ กลุ่มนักศึกษา กลุ่มเยาวชนปลดแอกเหล่านี้ ดูจากเส้นทางปูมประวัติ ค่อนข้างชัดว่า ไม่ใช่ม็อบรับจ้าง
เป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง มีความคิดความเชื่อทางการเมืองแนวเสรีประชาธิปไตยชัดเจน
ไม่ยอมทนกับการเมืองที่เยาวชนคนรุ่นใหม่เหล่านี้รู้สึกว่าไม่ชอบธรรม
ความจริง ไม่ควรเลยกับการไปโทษว่านายธนาธรคือตัวการปลุกปั่น
ต้องบอกว่า ตัวการปลุกปั่นก็คือ กระบวนการที่ทำทุกวิถีทางจนนายธนาธรหรือนักการเมืองตัวแทนคนรุ่นใหม่ ไม่สามารถเดินอยู่บนถนนการเมืองในระบบรัฐสภาได้
นั่นแหละตัวการจุดชนวนที่แท้จริง!
เพราะทำให้คนรุ่นใหม่ที่แห่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ตามวิถีประชาธิปไตยอันสงบสันติอย่างล้นหลาม
กลับรู้สึกหมดหวังในการเมืองภายใต้กลุ่มอำนาจยุคนี้
เหล่านี้นี่แหละคือกระบวนการที่ผลักคนรุ่นใหม่ให้ลงถนน เพราะไปทำให้เขารู้สึกสิ้นหวังกับการเมืองปกติ!
ประเด็นต่อมา กระบวนการสร้างรัฐธรรมนูญ ที่ทำให้การเมืองไทยไม่ตรงไปตรงมา อำนาจประชาชนผ่านการเลือกตั้ง ถูกกดข่มจากกลไกสารพัด
แค่เรื่อง 250 ส.ว.ที่มีอำนาจเหนือเสียงประชาชนที่เข้าคูหากาบัตร แค่นี้สร้างความรู้สึกคับข้องใจอย่างมากโขแล้ว
ทั้งหมดทั้งมวล เพราะไม่ยอมทำการเมืองให้เป็นประชาธิปไตยปกติ
ไปวางแผนกุมอำนาจให้ยาวนาน สร้างกติกา อย่างยอกย้อนทำให้การเข้าสู่อำนาจขาดความ ชอบธรรม
ก็เลยกลายเป็นชนวนชั้นดี จุดความร้อนระอุในอารมณ์คนรุ่นใหม่ให้เดือดพล่าน
ถ้าไม่เข้าข้างตัวเอง อาจจะหาทางออกที่ทำให้สถานการณ์เย็นลง แทนที่จะยิ่งโหมกองเพลิง!
