เป่านกหวีด ได้เรือดำน้ำ – สถานการณ์บ้านเมืองเราในวันนี้ ที่บรรดาคนรุ่นใหม่ไม่ยอมทนกับสภาพประชาธิปไตยแบบไทยๆ ซึ่งนักเรียนนักศึกษามองว่า ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริง ด้วยมีกลไกกติกาสำหรับการผูกขาดอำนาจ มีความเหลื่อมล้ำทางการเมือง เอารัดเอาเปรียบอย่างโจ่งแจ้ง
จึงนำมาสู่การลุกขึ้นต่อต้าน แผ่กว้างไปทั่ว
พร้อมๆ กัน มีการค้นย้อนกลับไปยังที่มา หาคำตอบว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
โดยพบว่าเชื่อมโยงกับกระบวนการรัฐประหารถึง 2 ครั้ง
19 กันยายน 2549 หนแรก และมากระทำซ้ำด้วยรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557
ขั้นตอนวิธีการแบบเดียวกัน คือ ม็อบเสื้อเหลืองต่อต้านรัฐบาลทักษิณ เรียกหาอำนาจกองทัพ เพื่อหยุดนักการเมือง เป็นการปูทางให้รถถัง
หนหลังก็ม็อบนกหวีด ปูทางให้รถถัง จนเกิดรัฐประหารอีก!
แล้วคงไม่สามารถใช้คำอธิบายประเภท เพราะนักการเมืองเลว นักการเมืองโกง เลยทำให้ทหารต้องออกมา
เพราะถ้านักการเมืองพรรคนั้นเลว รัฐบาลนั้นโกง ก็ต้องไปชี้ชะตาด้วยการให้ประชาชนตัดสินผ่านการเลือกตั้ง
ด้วยอำนาจในมือประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้เรียนรู้และพัฒนาการเมืองให้มีคุณภาพขึ้นไปเรื่อยๆ
ไม่ใช่ด้วยอำนาจท็อปบู๊ต ซึ่งจะทำให้ประชาธิปไตยหยุดชะงัก ประเทศชาติตกอยู่ในมือคนกลุ่มเดียว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานของม็อบนกหวีด!!
ทำให้เราต้องอยู่ภายใต้รัฐบาลทหารถึง 5 ปี
พอมีเลือกตั้ง ก็เจอกติกาพิสดาร ปาฏิหาริย์ ทำให้แกนนำคสช.กุมอำนาจอยู่ต่อไป
ปรากฏการณ์เรือดำน้ำอีก 2 ลำ ที่โผล่ขึ้นมา ท่ามกลางความเดือดร้อนด้านปากท้องของประชาชน เศรษฐกิจกำลังทรุดหนัก
คือคำอธิบายคำว่า รัฐบาลทหารได้ดีที่สุด!
เพราะทุกครั้งที่บ้านเมืองเกิดรัฐประหาร ได้รัฐบาลที่ทหารควบคุม ก็ย่อมต้องคิดถึงการเสริมเขี้ยวเล็บกองทัพ อะไรที่ยังขาดก็ต้องเร่งจัดซื้อ เพราะเป็นรัฐบาลที่คิดถึงแต่ความมั่นคง ความเกรียงไกรของกองทัพ
การจัดซื้อเรือดำน้ำเพิ่มอีก 2 ลำ ในยุคนี้ ก็คือคำตอบว่า รัฐบาลนี้ยังมีแกนนำคสช.คุมอยู่
คนที่ร่วมกันเรียกร้องทหารให้เข้ามาปกครอง คงต้องตระหนักกันให้ดีว่า
ทำให้ได้รัฐบาลที่พร้อมจะซื้อเรือดำน้ำอีก 2 ลำ
แม้ว่าเงินงบประมาณกอบกู้เศรษฐกิจ พยุงกิจการห้างร้าน ไม่ให้คนต้องตกงานเพิ่มอีก ยังไม่เพียงพอ!?!
