คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
คำตัดสินคดีบ้านหลวง – เมื่อศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ ในคดีดังบ้านหลวง โดยจะชี้ว่าความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สิ้นสุดลงหรือไม่ กรณีพักอาศัยอยู่ในบ้านพักทหารหลังจากเกษียณอายุราชการแล้ว
กลายเป็นประเด็นที่เรียกความสนใจจากทุกสายตาทั่วประเทศเลยทีเดียว
ทั้งที่ปกติการตัดสินคดีของทำนองนี้ ถ้าเป็นการร้องเรียนฝ่ายรัฐบาล ก็มักจะรอรับฟังข่าวกันด้วยอารมณ์ความรู้สึกอันเรียบเฉย!
แต่ในสถานการณ์การเมืองวันนี้ ถือว่าไม่ค่อยปกติ ด้วยพล.อ.ประยุทธ์กำลังถูกการเคลื่อนไหวของนักเรียนนักศึกษาคนรุ่นใหม่ รุกไล่อย่างหนัก
ยืนกรานว่าต้องลาออก เพื่อปลดล็อกการเมือง พร้อมกับข้อเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไปสู่ประชาธิปไตยเสรี
ประเด็นที่พล.อ.ประยุทธ์ถูกไล่ต้อน ถูกผูกมัดกับการปลดล็อกวิกฤตนี่เอง ทำให้เกิดข้อคิดข้อวิเคราะห์มากมาย
รับกับการนัดอ่านคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ!!
Advertisement
คงไม่ได้หมายความว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินคดี ด้วยการกำหนดจากสถานการณ์การเมือง คงไม่ได้มองอะไรกันเช่นนั้น
แต่หมายความว่า ถ้าหากผลการวินิจฉัยชี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องสิ้นสุดการเป็นรัฐมนตรีจริง
ก็จะกลายเป็นทางออกทางการเมือง ในสถานการณ์นี้อย่างพอดิบพอดี
ขณะเดียวกัน มีการศึกษาเปรียบเทียบ กับคดีในอดีตที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยชี้ กรณีของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี จัดรายการชิมไปบ่นไป
ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การรับเงินค่ารถเกิน 3,000 บาท มีผลให้นายกฯ คนดังกล่าวต้องพ้นจากตำแหน่ง!
มีการยกคดีสมัคร มาเทียบกับคดีบ้านหลวงนี้กันมากมาย
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร สุดท้ายก็ขึ้นกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะลงมติออกมาว่าอย่างไร จะชี้ว่าการอยู่บ้านหลวงหลังจากเกษียณราชการไปแล้ว จะมีผลต่อสถานะความเป็นนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์หรือไม่
น่าลุ้นกันจริง!!
คดีนี้เป็นการยื่นร้องโดยส.ส.พรรคฝ่ายค้าน นำโดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เมื่อต้นเดือนมิถุนายน
มีการไต่สวน มีการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา
จนกระทั่งนัดวินิจฉัยในต้นเดือนธันวาคม
ท่ามกลางสถานการณ์ที่เพิ่มดีกรีมากขึ้นไปเรื่อย ด้วยการเคลื่อนไหวอันร้อนแรงของเยาวชนนักเรียนนักศึกษา
ถึงขนาดที่ต้องระดมอดีตนายกฯ ถึง 5-6 คนมาร่วมเป็นกรรมการปรองดองสมานฉันท์ เพื่อช่วยกันหาทางออก
จนป่านนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าทางออกจะอยู่ตรงไหนกันแน่!?
