ความเสื่อมถอย – หลังจากนักเล่าข่าวคนดัง นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้พักโทษ ได้รับอิสรภาพพ้นออกจากเรือนจำ จะเห็นได้ว่า ผู้คนในสังคม เพื่อนสนิทมิตรสหาย ต่างให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น แถมยังมีเสียงเรียกร้องให้กลับคืนสู่บทบาทที่เคยโดดเด่นอีกด้วย
ปรากฏการณ์นี้ บ่งบอกอะไร!?
ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยมุมมองเชยๆ ตื้นๆ เหมือนกรณีอื่นๆ ก่อนหน้านี้ ที่มักกล่าวกันว่า เพราะคนไทยชอบแต่คนเก่ง จนไม่สนว่าเป็นคนโกง
ไปจนถึงการโหมวาทกรรมสั่งสอนเด็กที่ว่าโตไปต้องไม่โกง ขณะที่เด็กยุคนี้เขาไปไกลเกินยัดเยียดแล้ว
เอาเข้าจริงๆ แล้วกรณีนายสรยุทธ น่าจะเป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นว่า คนจำนวนมากมองว่า แม้นาย สรยุทธจะต้องคดีด้านเงินโฆษณาทีวี
แต่อีกส่วนหนึ่ง นายสรยุทธก็คือเหยื่อทางการเมืองรายใหญ่รายหนึ่ง
การเมืองในช่วงที่ใช้อคติรุนแรง ใครไม่ยอมเป่านกหวีดก็ต้องเป็นอีกฟากฝ่ายเป็นศัตรู!!
วันนี้เมื่อนายสรยุทธพ้นออกจากเรือนจำ จึงมีเสียงยินดีกับการได้กลับคืนสู่สังคม
แทบจะไม่มีใครรู้สึกถึงข้อกล่าวหาที่ทำให้ต้องได้รับโทษ
อาจจะคล้ายกับกรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ถูกข้อกล่าวหาเรื่องการถือหุ้นสื่อ เรื่องการกู้เงินของพรรค!?
จนทำให้ถูกลงโทษ ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ถูกยุบพรรค
แต่อารมณ์ความรู้สึกของคนในสังคมจำนวนไม่น้อย ไม่ได้มองนายธนาธรอย่างเคลือบแคลงอะไรเลย!
กลับสนับสนุนให้เดินหน้าต่อสู้เพื่อสังคมต่อไป
ข้อเสนอความคิดของนายธนาธรยังมีอิทธิพลไม่ลดระดับลงไป
นายธนาธรแทบไม่ได้เสื่อมด้วยข้อกล่าวหาที่ถูกลงโทษแต่อย่างใดเลย
ยังไม่รวมไปถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร รวมทั้งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ถูกข้อหาทุจริตจนต้องหลีกหนีไปต่างแดน แต่ทั้งโลกไม่มีใครช่วยเหลือรัฐบาลไทยจับตัวคนทั้งสองส่งตัวมาให้แต่อย่างใด
เพราะทั้งโลกมองว่าเป็นปัญหาทางการเมือง
วันนี้นายโทนี่เข้าคลับเฮาส์เมื่อไหร่ ก็ได้เข้าไปฟังกันล้นห้อง
ในทางตรงข้าม กระบวนการทำลายล้างการเมือง ที่อ้างข้อหาทุจริตมาเป็นเครื่องมือ จึงเสื่อมลงไปทุกที
คนไทยไม่ได้ชอบคนเก่งแต่โกง แต่เพราะมองเห็นกระบวนการอำนาจ และกฎหมายไร้มาตรฐานมากกว่า!