ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
ข่าวการเฝ้าระวังรถประกอบระเบิดที่เรียกว่าคาร์บอมบ์ โดยกลุ่มคนจากพื้นที่ไฟใต้ เตรียมจะเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่กทม.นั้น อันที่จริงมีมาตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม โดยพบว่ามีหนังสือจากพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งการให้หน่วยตำรวจที่เกี่ยวข้องเตรียมรับมือ
คาดว่าพื้นที่เป้าหมายคือกทม.และปริมณฑล
โดยเป็นหนังสือสั่งการเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ต่อมาวันที่ 10 ตุลาคม พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เป็นเรื่องที่มาก่อนเหตุการณ์ความโศกสลดของคนไทยทั้งประเทศ เมื่อทราบข่าวสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในวันที่ 13 ตุลาคม
จากนั้นพสกนิกรทั่วทั้งสังคมไทย เข้าสู่ห้วงแห่งการแสดงความไว้อาลัย ไปจนถึงการเดินทางไปถวายสักการะพระบรมศพ ที่พระบรมมหาราชวัง
ขณะที่บรรดาทหาร และตำรวจ ร่วมกันอย่างเต็มกำลัง
เพื่อดูแลอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนมหาศาลที่มาร่วมกันรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
ทั้งด้านการเดินทาง การอยู่กิน สุขอนามัย ความปลอดภัยจากมิจฉาชีพ
ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคง รวมทั้งตำรวจที่รับผิดชอบการสืบสวนติดตามคดีคาร์บอมบ์ ก็ยังทำงานกันอย่างเงียบๆ และต่อเนื่อง
ทั้งนี้เพราะการข่าวระบุว่าช่วงที่มีโอกาสจะเกิดเหตุอยู่ระหว่าง 25 ตุลาคม ถึง 30 ตุลาคม
โดยสัมพันธ์กับการรำลึกถึงเหตุการณ์ตากใบ!
แม้ว่าจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับช่วงบรรยากาศการแสดงความไว้อาลัยรักในพระเจ้าอยู่หัวของคนไทยทั้งชาติ
และเป้าหมายของผู้ก่อเหตุจะเป็นอีกประเด็นไปต่างหาก คือ เกี่ยวกับเหตุการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดใต้
แต่เพราะห้วงเวลาอยู่ในระยะปลายเดือนนี้พอดี แถมเป้าหมายพื้นที่ก่อเหตุมุ่งมาที่กทม.และปริมณฑล
จึงทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและตำรวจ ต้องทุ่มเทตรวจสอบอย่างหนักหน่วง เพื่อไม่ให้ผู้คนจำนวนมากมายมหาศาล ที่หลั่งไหลเข้ามาในกทม.ห้วงระยะนี้ ต้องได้รับผลกระทบ
แต่เมื่อเห็นการระดมตรวจสอบเอกซเรย์อย่างละเอียดของตำรวจ เห็นการทำงานอย่างเข้มข้น
น่าจะพอมั่นใจได้ว่า โอกาสจะเกิดเหตุคงน้อยนิด!
เพราะมีการป้องกันเต็มที่ ฝ่ายก่อเหตุคงยากจะลงมือได้
หวังว่าจะไม่เกิดเหตุร้ายใดๆ ในพื้นที่กทม.ห้วงระยะนี้ และหลายเดือนต่อจากนี้
ซึ่งจะเป็นช่วงที่คนไทยจะร่วมใจกันเพื่อเหตุการณ์ประวัติศาสตร์
แต่ขณะเดียวกันในการทำงานอย่างมุ่งมั่นของตำรวจ
ควรต้องระวังไม่ให้มีการเหวี่ยงแหหรือละเมิดสิทธิของผู้บริสุทธิ์ด้วย!