ธรรมนัสมาแล้ว ประยุทธ์จะว่ายังไง – อย่างที่ว่าเอาไว้ คอบอลชาวไทยแม้จะชื่นชมนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่จัดหาการถ่ายทอดสดบอลยูโรมาให้ดูกันผ่านฟรีทีวี
แต่คอบอลไม่ได้มีส่วนลงคะแนนเลือกเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ หากแต่เป็นการโหวตของส.ส.และคนในพรรค
ลงเอยนายอนุชา ก็ไม่สามารถป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้ พ่ายแพ้แก่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไปเรียบร้อยแล้ว ในการประชุมใหญ่พปชร.เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
นั่นเป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงภายในพรรคพปชร. ชี้ขาดกันด้วยบารมีความนิยมชมชอบของเหล่าส.ส.และแกนนำกลุ่มต่างๆ
ผลงานของ ร.อ.ธรรมนัส ที่โชว์ฟอร์มในสนามเลือกตั้งซ่อมต่างๆ ตามสไตล์ไม่มีอั้น
จึงเหนือกว่าผลงานถ่ายทอดสดจากสนามบอลยูโรของรัฐมนตรีอนุชา!
ถัดจากนี้ ผลจากการขึ้นชั้นเป็นเลขาธิการพรรค ทำให้จับตามองกันว่า ระดับเลขาฯ พปชร.จะต้องนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการเต็มตัวหรือไม่
นี่จะกลายเป็นกระแสใหม่ ที่ส่งผลกระทบไปถึงนายกรัฐมนตรี ผู้ตัดสินใจในการปรับครม.
แรงกระเพื่อมจากการเปลี่ยนแปลงในพปชร. ไม่ได้ทำให้เกิดคลื่นใต้น้ำภายในพรรคการเมืองนี้
แต่จะเกิดคลื่นใต้น้ำกดดันต่อนายกฯ ในประเด็นโควตารัฐมนตรีมากกว่า!!
พร้อมๆ กัน จากนี้ไปจะได้เห็นบทบาทที่เพิ่มสูงขึ้นของเลขาธิการพปชร.คนใหม่ เจ้าของลีลาใจถึงพึ่งได้
โดยพร้อมๆ กัน จะเกิดแรงเสียดสีจากสังคมทั่วไปในด้านชื่อเสียงภาพพจน์อย่างมากมายเช่นเดียวกัน!
แต่การเมืองในยุคที่เครือข่ายอำนาจนอกระบบการเมืองสนับสนุนอย่างหนาแน่น
ประชาชนจะวิพากษ์วิจารณ์นายกฯ ขนาดไหน สถานการณ์วัคซีนโควิด จะผิดพลาดล่าช้า เศรษฐกิจจะทรุดหนัก ขนาดไหน
ก็ไม่มีใครทำอะไรรัฐบาลนี้ได้ เพราะเสียงประชาชนไม่ใช่ผู้ตัดสิน!?
เลือกตั้งครั้งต่อไป ยังมี 250 ส.ว.กำหนดนายกฯ เหนือเสียงประชาชนที่ไปเลือกตั้ง
การเมืองที่ทำให้พล.อ.ประยุทธ์อยู่ได้นี่แหละ ก็ทำให้ร.อ.ธรรมนัส ผงาดขึ้นมาได้เช่นกัน และจะก้าวไปไกลกว่านี้อีก!!
ส่วนในพรรคพปชร.ยากจะเกิดความแตกแยกอะไร เมื่อพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั่งเป็นหัวหน้า
ศึกชิงเลขาฯ พรรคที่เพิ่งจบ ก็เป็นเรื่องโชว์บารมีของร.อ.ธรรมนัส ส่วนหัวหน้าพรรคเล่นบทนิ่งไม่ลงไปคลุกอะไรด้วย
เพียงแต่วันก่อน นักข่าวถามบิ๊กป้อมว่า เชียร์ทีมไหนในยูโร คำตอบคือ ไม่รู้จักทีมไหน จะเอาเวลาที่ไหนไปดูบอล
พูดแบบนี้กระมัง คนในพปชร.ก็เลยไม่สน ผลงานถ่ายทอดสดยูโรไปด้วย!?!
