ยุบหรือไม่ยุบสภา
อยู่ที่ปมคะแนนนิยมตกต่ำ
คอลัมน์ชกไม่มีมุม
ยุบหรือไม่ยุบสภา อยู่ที่ปมคะแนนนิยมตกต่ำ – กระแสข่าวการยุบสภาที่มาแรง ไม่ใช่จู่ๆ เกิดขึ้นมา อย่างลอยๆ แต่มีต้นตอนั่นคือ ความขัดแย้งระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จนถึงขั้นสั่งปลดออกจากการเป็นรัฐมนตรี ขณะที่ร.อ.ธรรมนัสถอยกลับมาปักหลักในเก้าอี้เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ แล้วอย่างนี้ระหว่างนายกฯ กับพรรคฐานเสียงหลักของรัฐบาล จะไปอย่างราบรื่นได้อย่างไร
ไม่เท่านั้น ยังสะเทือนหนักไปถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่อุตส่าห์เบรกแผนโหวตไม่ไว้วางใจนายกฯ ของร.อ.ธรรมนัส จนยอมยุติ เพื่อปกป้องพล.อ.ประยุทธ์ และเพื่อรักษาสัมพันธ์ 3 ป. ให้ยืนยาว
แต่แล้วพล.อ.ประยุทธ์กลับไม่ยอมหยุด ไปปลดร.อ.ธรรมนัส และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ พ้นจากครม. โดยปลดก่อนแล้วมาบอกทีหลัง
ยิ่งทำให้เกิดรอยร้าวเพิ่มอีกจุด คือ ระหว่าง 3 ป.
ประเด็นสำคัญ เมื่อร.อ.ธรรมนัส ยังเป็นคีย์แมนสำคัญของพลังประชารัฐ พรรคที่เป็นฐานเสียงหลักของรัฐบาล แต่ก็อยู่ในสภาพแตกหักกันไปแล้ว เสียงในสภาของนายกฯ และรัฐบาล ย่อมมีความสุ่มเสี่ยง ต่อไปนี้จะโหวตกฎหมายสำคัญๆ เรื่องใหญ่ๆ จะเกิดอะไรขึ้น
เช่นนี้แล้ว โอกาสยุบสภาจึงมีสูงมาก เพราะรัฐบาลเองกับแกนนำของพรรครัฐบาลเอง ไปต่อกันไม่ได้!
บรรดานักการเมืองที่คร่ำหวอดชี้ว่า เพราะเป็นนายกฯ ที่มาด้วยอำนาจกองทัพอำนาจพิเศษ ไม่เคยรู้จักการเมืองที่แท้จริง
ถนัดใช้อำนาจ จนกลายเป็นทำลายฐานเสียงในสภาของตัวเอง
ทำให้ตัวเองขาลอยแท้ๆ
กระแสยุบสภา จึงมีที่มาชัดเจนเช่นนี้เอง!
แต่ก็อีกนั่นแหละ ด้านหนึ่งอาจจำเป็นต้องยุบสภาเพื่อแก้ปัญหา แต่อีกด้านก็อาจจะฝืนต่อไปไม่ยอมยุบสภา เพราะปัญหาคะแนนนิยมรัฐบาลที่เสื่อมทรุด
ยุบสภาในขณะที่ชาวบ้านไม่ยอมรับผลงานรัฐบาล จึงเป็นเหตุผลอีกด้านที่ทำให้ยังไม่อยาก จะยุบ!!
ระหว่างนี้เราจึงได้เห็นความพยายามจะแก้ปัญหากับพรรคพลังประชารัฐ
ออดอ้อนเอาอกเอาใจหัวหน้าพรรคสารพัด พร้อมกับส่งมือไม้เข้าไปกุมสภาพภายในพรรค แต่จะแก้ปัญหาได้แค่ไหน ยังมองไม่ออก เพราะมุ้งใหญ่ยังอยู่ในมือของเลขาธิการพรรค
แถมส่งคนประเภทให้ความสำคัญกับเสื้อผ้า หน้าผม
แบบนี้จะลงไปสัมผัสกับบรรดาส.ส.ส่วนใหญ่ได้สัก เท่าไหร่
ยังเทียบไม่ได้กับลีลาของเลขาธิการพรรค
ลงไปเดินลุยน้ำท่วมอก พบปะชาวบ้านย่าน น้ำท่วม
แต่เอาเป็นว่าถ้าพอจะแก้ปมสัมพันธ์กับพลังประชารัฐได้ ก็คงเลือกหนทางอยู่ต่อไปให้ยาวนาน
ยิ่งไม่แน่ชัดว่าจะมีโอกาสกลับมาอีกสมัยหน้าหรือไม่
ก็คงอยากจะอยู่ในสมัยนี้ให้ยาวนานที่สุด!
โดยวงค์ ตาวัน
