คอลัมน์ ชกไม่มีมุม

โดย…วงค์ ตาวัน

สงคราม-ผู้อพยพพม่า พิษภัยรัฐประหาร

มีเหตุการณ์รุนแรง 2 เหตุการณ์ เกี่ยวกับสถานการณ์ในพม่า ประเทศเพื่อนบ้านของไทย เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งไม่เพียงนั่งมองอย่างเห็นอกเห็นใจ แต่ควรย้อนมองบ้านเราเองว่า กำลังจะเป็นอย่างนั้นหรือไม่

เหตุการณ์หนึ่งคือ การจลาจลภายในศูนย์อพยพผู้ลี้ภัยจากสงครามในพม่า ที่แม่หละ ท่าสองยาง จังหวัดตาก

โดยผู้ลี้ภัยประท้วงเจ้าหน้าที่ เพราะการเข้มงวดโควิด และอ้างว่ามีการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมของเจ้าหน้าที่บางคน มีเรื่องผลประโยชน์

เหตุการณ์นี้ทำให้เราได้รู้ว่า ค่ายอพยพแม่หละ ที่มีผู้ลี้ภัยจากพม่าเข้ามาอยู่มากถึงเกือบ 5 หมื่นคน และศูนย์นี้เปิดมาสิบยี่สิบปีเข้าไปแล้ว แต่ผู้อพยพยังคงมีเข้ามาเป็นระยะๆ

จากวิกฤตในพม่าล่าสุด คือกองทัพก่อรัฐประหาร เมื่อเดือนกุมภาพันธ์

สถานการณ์ในพม่ายิ่งเลวร้าย การอพยพจึงไม่สิ้นสุด!

ขณะเดียวกันได้เกิดอีกเหตุการณ์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา คือ การสู้รบอย่างหนักระหว่างกองทัพพม่ากับกองกำลังกะเหรี่ยง จนทำให้ประชาชนนับพันต้องหนีตาย ข้ามแดนเข้ามาด้านแม่สอด จังหวัดตาก

ภาพคนที่เสียขวัญ หอบลูกจูงหลาน เป็นภาพประจานภัยสงคราม ที่คนไทยเองดูแล้วสลดใจ

แต่หลายคนอดคิดต่อไปไม่ได้ ว่าไทยเราก็ขัดแย้งแตกแยกไม่ธรรมดา ลงเอยจะพัฒนาไปถึงขั้นนี้หรือไม่!?

ปัญหาความขัดแย้งรุนแรงในพม่า ชัดเจนว่ามาจากการยึดกุมอำนาจของผู้นำกองทัพ ไม่ยอมให้มีประชาธิปไตย

กองทัพพม่าผูกขาดอำนาจมานาน ก่อนจะยอมคายเพราะการสู้อย่างสันติอหิงสาของ ออง ซาน ซู จี แต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมาก็รัฐประหารอีก!

คราวนี้คนหนุ่มสาวในพม่าออกมาชูสามนิ้วไปทั่วทุกท้องถนน จนถูกปราบด้วยกระสุนจริง แต่ก็ไม่ทำให้คนสยบยอม การต่อต้านลุกลามไปทั่ว

ส่วนหนึ่งตัดสินใจเข้าป่า ไปฝึกอาวุธ ไปจับปืนสู้ร่วมกับกองกำลังชนกลุ่มน้อย

เหมือนกับที่เกิดขึ้นในไทยหลัง 6 ตุลาคม 2519 เมื่อนักศึกษาแห่เข้าป่าไปจับปืนร่วมกับคอมมิวนิสต์ จนรัฐบาลต้องยอมถอย เพื่อยุติสงคราม!

สถานการณ์พม่า ที่ทหารยังกลับมาก่อรัฐประหารอีก

จึงเต็มไปด้วยการต่อต้าน ขณะที่กองกำลังชนกลุ่มน้อยก็ยิ่งสู้รบอย่างคึกคัก เพราะประชาชนไม่ยอมรับอำนาจรัฐบาลพม่าอย่างกว้างขวาง

แต่อีกด้านศูนย์อพยพในไทยก็ยังเต็มไปด้วยคนหนีภัย แถมยังมีหนีข้ามแดนมาอีกเป็นระยะ

ไม่ใช่ความผิดของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล แต่คือความผิดของทหารพม่าใช้อำนาจเผด็จการปกครองประเทศ!!

อันที่จริงกลุ่มอำนาจในไทยก็มีวิถีทางใกล้เคียงกัน คือรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 แล้วใช้รัฐธรรมนูญผูกขาดอำนาจ อยู่ต่อมา

จึงเกิดการต่อต้านมาตลอดเช่นเดียวกัน แต่อย่าทำให้บ้านเราไปถึงขั้นแบบพม่าเลย

ยอมถอย ยอมคายอำนาจ ให้มีประชาธิปไตยเป็นปกติเร็วที่สุดเถอะ!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน