คอลัมน์ ชกไม่มีมุม

โดย…วงค์ ตาวัน

ปัญหาปากท้องชาวบ้าน เคยล้มรัฐบาลมาแล้ว

ไปไหนมาไหนในระยะนี้ มีแต่เสียงผู้คนบ่นกันไปทั้งบ้านทั้งเมือง เรื่องราคาเนื้อหมูที่แพงเกินกว่ากิโลละ 200 บาท อาจจะไปถึง 300 บาทก็เป็นไปได้ แพงสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เกิดมาไม่เคยพบไม่เคยเห็น

แถมราคาไก่ ไข่ไก่ อาหารทะเล ก็ทยอยขึ้นตามมาติดๆ ทั้งแก๊สหุงต้ม ทั้งน้ำมันเติมรถ แพงไปทั้งหมด

ท่าทีของรัฐบาล ก็ซัดกันไปมาระหว่างพรรคหลักของรัฐบาล กับพรรคที่คุมกระทรวงเกษตรฯและกระทรวงพาณิชย์

ไม่มีฝีมือด้วยกันทั้งรัฐบาลนั่นแหละ

ยิ่งผู้นำอยู่ในกรมกองมาทั้งชีวิต คงมีความสามารถในบางด้าน แต่ไม่เกี่ยวกับความสามารถแก้วิกฤตและบริหารเศรษฐกิจแน่นอน

อยู่ก็เพื่อเป็นตัวแทนเครือข่ายอำนาจนอกระบบประชาธิปไตย แล้วประกาศจะอยู่ยาวไปจนครบเทอมปี 2566 โน่น!

เช่นนี้แล้ว ชะตากรรมของประชาชนในประเทศไทย จึงช่างมืดมนจริงๆ

ชีวิตความเป็นอยู่ ปากท้องประชาชน ไม่สำคัญเท่าภารกิจต่อสู้แย่งชิงอำนาจกับขั้วการเมืองตรงกันข้าม

ระวังเอาไว้เถิด ประชาชนที่อดอยากยากลำบากจะทนไม่ไหว!!

ปัญหาโควิดก็ทำเอายากลำบากมาตลอด 2 ปี ธุรกิจการค้าฝืดเคือง เงินทองร่อยหรอ ยังมาเจอปัญหาสินค้าสำหรับการกินอยู่แพงอย่างไม่เคยพบเคยเห็นอีก

ปัญหาปากท้องประชาชน ของแพง ไฟแพง น้ำมันแพง เคยทำให้รัฐบาลล้มมาแล้ว!

เอาเข้าจริงๆ ช่วงหลายเดือนมานี้ มีเหตุวิ่งราวชิงทอง บุกจี้ร้านทอง เกิดขึ้นบ่อยมากๆ

อาจจะมาจากหลายสาเหตุ ที่ผลักให้คนหันมาเป็นโจร

แต่ส่วนหนึ่งเพราะคนตกงานจากสถานการณ์ โควิดทำให้ธุรกิจการค้าต้องหยุดชะงัก จนไม่มีทางออก เลือกทางที่ผิด

ยังไม่นับคนฆ่าตัวตาย ที่มีสถิติเห็นชัดเจน โดยส่วนใหญ่ข้อความลาตาย เพราะแบกรับภาระหนี้สินไม่ไหว

ทั้งยังมองไม่เห็นว่าอนาคตเศรษฐกิจจะฟื้นได้อย่างไร จะล้างหนี้สินได้ทางไหน

กล่าวได้ว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ถดถอยมาเรื่อยๆ นับตั้งแต่การรัฐประหาร 2557

หลังจัดม็อบมาขับไล่รัฐบาลเลือกตั้ง เพื่อให้ทหารเข้ามาปกครองแทน ทั่วโลกก็แอนตี้รัฐบาลเผด็จการโดยอัตโนมัติ มีผลต่อเศรษฐกิจทันที

อยู่มาแล้ว 7 ปี จนหมูแพงได้ขนาดนี้ ถ้าอยู่ ต่อไป จะแพงไปขนาดไหน!?

ต้องคิดต้องประเมินกันให้ดี ว่าประชาชนคนไทยเขาจะสามารถทนต่อไปได้แค่ไหน

น่าเป็นห่วงมากๆ ว่า ปัญหาหมูแพง สินค้าแพง คนอยู่กินลำบาก จะกลายเป็นจุดเดือดได้ง่ายๆ!?

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน