การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และรัฐมนตรีรวม 11 ราย ที่จะเริ่มเปิดเขียงสับกันเปรี้ยงๆ ในปลายเดือนกรกฎาคมนี้แน่นอน ตอนนี้มีสัญญาณเขย่าขวัญจากร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ปรากฏออกมาแล้ว
ด้วยการระบุถึงรัฐมนตรีบางราย ที่จะถูกอภิปรายข้อหาทุจริต ทำนองว่าคงจะชี้แจงได้ยาก
หากพรรคเศรษฐกิจไทยยังไปสนับสนุนรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเหล่านี้ สมัยหน้าประชาชนเขาจะไม่เลือกเรากลับเข้ามาอีก!!
พูดง่ายๆ ว่า ร.อ.ธรรมนัสและพรรคเศรษฐกิจไทยแสดงท่าทีในวันนี้แล้วว่า จะไม่โหวตให้รัฐมนตรีบางคนแน่ๆ
แถมส่งกระแสร้อนๆ ไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล
หากรัฐมนตรีบางคนสอบไม่ผ่าน หรือเสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย แม้นายกฯ จะยังอยู่ในหน้าที่ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบ ต้องพิจารณาตัวเอง!
จากนี้ไปยังมีเวลาอีกราว 2 สัปดาห์ ก่อนที่จะถึงดีเดย์ศึกซักฟอก
การเมืองไทยยังเอาอะไรแน่ไม่ได้
Advertisement
ช่วงเวลาก่อนถึงวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ อาจมีการเปิดเจรจาต่อรอง จนเสียงรัฐบาลกลับมาแน่นปึ้กก็ได้!
2 สัปดาห์ต่อจากนี้ ยังต้องจับตามองกันต่อไปสถานการณ์จะแปรเปลี่ยนหรือไม่
ยกเว้นไม่มีอะไรเปลี่ยน ร.อ.ธรรมนัสยังยืนยันจุดยืนเดิมเหมือนที่พูดไว้ในวันนี้ ก็น่าจะมีเรื่องสนุกๆ เกิดขึ้นแน่
แต่ความจริงจุดสำคัญที่สุดก็คือ ส.ส.ควรรับฟังน้ำหนักของการอภิปรายโดยฝ่ายค้าน
พร้อมกับตรวจสอบอารมณ์ความรู้สึกของประชาชน ที่นั่งดูการถ่ายทอดอภิปราย
ก่อนตัดสินใจโหวต ควรนึกถึงประชาชนที่เลือกเราเข้ามา โหวตแบบไหนอย่างไร จะขัดสายตาของคนดูหรือไม่!?
คำกล่าวของร.อ.ธรรมนัสที่ว่า หากยังไปสนับสนุนรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต สมัยหน้าประชาชนเขาจะไม่เลือกเรากลับเข้ามาอีก
นี่ควรจะเป็นหลักคิดของนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน
แม้แต่ร.อ.ธรรมนัสเอง วันนี้พูดจาหนักแน่นขนาดไหน ถึงวันลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็อย่าได้เปลี่ยนจุดยืนไปจากนี้
ความจริงทุกคนล้วนรู้ดีว่าความรู้สึกของประชาชนส่วนใหญ่วันนี้เป็นเช่นไร ในท่ามกลางวิกฤตราคาน้ำมันและสินค้าแพง
ทำไมประชาชนคนกทม.จึงสร้างปรากฏการณ์เลือกผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อย่างถล่มทลาย
ทำไมโพลล่าสุดจึงออกมาชัดเจนว่า ประชาชนต้องการนายกฯ ที่มาจากคนรุ่นใหม่ กลายเป็นกระแสอุ๊งอิ๊งที่กำลังมาแรง
ชัดเจนว่าประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลง!
วงค์ ตาวัน