ช่วงระยะนี้มีข่าวการจัดฉลองวันเกิด 73 ปี ให้กับทักษิณ ชินวัตร ในหมู่คนเสื้อแดง หรือในหมู่ญาติพี่น้องชินวัตร พร้อมกับมีการโฟนอินจากดูไบ มาทักทายพูดคุยกัน พร้อมกับมีคำประกาศจากอดีตนายกฯคนดังว่า ปีหน้าเราเจอกันที่เมืองไทย
ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ทักษิณประกาศว่า กำลังจะกลับไทยในเร็วๆ นี้
มีคำถามว่า คำประกาศจะกลับไทยอย่างแน่นอน หรือล่าสุดบอกว่าปีหน้าเจอกันที่ไทย แปลว่าอะไร!?
มีผู้วิเคราะห์ว่า คงเป็นการกระตุ้นประชาชนให้ช่วยกันไปเลือกตั้งซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในเร็วๆ นี้หรือต้นปีหน้า
โดยเลือกฝ่ายประชาธิปไตย ให้ได้ส.ส.แบบถล่มทลาย หรือที่ว่าเลือกแบบแลนด์สไลด์
ให้ฝ่ายประชาธิปไตยได้จัดตั้งรัฐบาล เกิดบรรยากาศการเมืองที่มีเสรีภาพ ความเป็นธรรม ก็จะเป็นช่องทางให้ทักษิณกลับมาได้ อะไรประมาณนั้น!
ฝ่ายต่อต้านทักษิณก็ปลุกผีความหวาดกลัวทันที ทำนองว่าประเทศไทยจะซ้ำรอยเหตุการณ์นิรโทษกรรมเมื่อปี 2556
นำไปสู่การประท้วงต่อต้าน ลงเอยเป็นความขัดแย้งแตกแยก และรัฐประหาร
Advertisement
แน่นอนว่า ถ้าทักษิณจะกลับคงเป็นชนวนให้ฝ่ายตรงข้ามต่อต้าน แต่ถ้าทักษิณไม่ได้กลับก็จะเป็นปมปัญหาใหญ่ของบ้านเมืองเช่นเดียวกันมิใช่หรือ!?
ทุกวันนี้อดีตนายกฯ ไทย 2 ราย คือ ทักษิณและยิ่งลักษณ์ ต้องหนีคดีไปต่างประเทศ
แต่ทั้งโลกไม่มีใครเชื่อข้อหาทุจริต มองว่าเป็นเรื่องการเมือง ซึ่งกลายเป็นประจานการเมืองไทยว่าเลวร้ายในสายตาคนทั้งโลกนั่นเอง!
เพราะมีการใช้กองทัพออกมารัฐประหารล้มทักษิณ และต่อมาก็สูตรเดิมในการล้มยิ่งลักษณ์
เสร็จแล้วก็มีการดำเนินคดีทุจริต ในบรรยากาศที่การเมืองไม่เปิดกว้างไม่เป็นธรรม นั่นจึงเกิดความไม่น่าเชื่อถือ
ถ้าย้อนกลับไปมองการเมืองในช่วงปี 2549 ตอนนั้นทักษิณก็เริ่มเสื่อมในสายตาประชาชน!!
ถ้าปล่อยให้มีการเลือกตั้งเป็นปกติ ทักษิณก็อาจจะแพ้ไปแล้ว
แต่พอใช้ม็อบเรียกหาทหาร เสร็จแล้วก็เกิดรัฐประหารตามมา เรื่องจึงพลิกกลับ กลายเป็นการล้มล้างนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง
คราวนี้ทักษิณยิ่งกลายเป็นคนสำคัญในสายตาประชาชน และเป็นเครื่องประจานการเมืองไทยว่ามีการใช้อำนาจนอกระบบไม่เป็นธรรม
ทักษิณและยิ่งลักษณ์อยู่ในต่างประเทศอย่างเปิดเผย เพราะไม่มีประเทศไหนในโลกที่ร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการส่งตัวมาดำเนินคดี
ความจริงให้ทักษิณและยิ่งลักษณ์กลับมา มีได้หลายแนวทาง ต้องดำเนินคดี โดยมีกระบวนการที่เป็นธรรมก็ได้
แต่ตราบใดที่ 2 พี่น้องยังไม่ได้กลับ โลกก็ยังมองการเมืองไทยในแง่ดำมืดต่อไป
ความขัดแย้งในประเทศก็ยังจมอยู่ในจุดเดิมไม่สิ้นสุด!
วงค์ ตาวัน