เพิ่งเข้ามาทำหน้าที่ผบ.ตร.เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา เพียงแค่ไม่กี่วัน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ก็ต้องเจอกับเหตุการณ์ใหญ่ ต้องบินด่วนไปควบคุมสถานการณ์ที่หนองบัวลำภู จากเหตุสังหารหมู่ 37 ศพ อันเศร้าสะเทือนใจ
ทั้งคนก่อเหตุยังเป็นอดีตตำรวจยศส.ต.อ. ทำให้ผบ.ตร.ต้องกำกับดูแลการหาสาเหตุอย่างละเอียดที่สุด เพื่อมีบทสรุปและแนวทางป้องกันแก้ไข
ยังดีที่อดีตตำรวจรายนี้มีการตรวจสอบในระบบตำรวจเอง พบว่ามีพฤติกรรมเสพยา จึงถูกจับกุมดำเนินคดีและไล่ออกจากราชการ!
ถ้ายังก่อเหตุทั้งที่ยังอยู่ในราชการ คงเสียหายวงการตำรวจอย่างหนัก แต่นี่ยังมีการตรวจพบก่อน โดนถอดเครื่องแบบไปแล้ว
กระนั้นก็ตาม คำถามจากคนทั้งสังคมไทยในเวลานี้คือ ปัญหายาบ้าระบาดหนัก กับปัญหาอาวุธปืนที่มีเกลื่อนเมือง
เป็นปัญหาระดับนโยบายของรัฐบาล ต้องคิดอะไรมากกว่านี้ เพราะที่ผ่านมาตำรวจก็จับกุมยาบ้ามากมาย แต่ก็ชัดแล้วว่า เป็นการแก้แบบปลายทาง จับเท่าไหร่ โรงผลิตก็ผลิตเพิ่มเท่านั้น!?!
สำหรับผบ.ตร.คนใหม่ ที่เรียกกันติดปากว่าบิ๊กเด่น อันที่จริงในวันรับตำแหน่งผู้นำสีกากี ก็ได้ประชุมตำรวจน้อยใหญ่เพื่อมอบนโยบายการทำงานยุคนี้อย่างเข้มข้น
หนึ่งในนโยบายหลักคือการปราบปรามยาเสพติด ที่กำลังคุกคามสังคม
ที่ผบ.ตร.คนนี้เน้นย้ำคือ โครงการฝึกอบรมพัฒนาประสิทธิภาพตำรวจ ในการค้นหาผู้ใช้ ผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด เพื่อเข้าสู่การบำบัดรักษา
การจับกุมปราบปรามผู้ค้าก็ต้องจริงจัง ขณะที่การนำตัวคนติดยา เพื่อเข้าบำบัดให้กลับมาเป็นคนปกติในสังคม ก็เป็นเรื่องสำคัญ
ไม่เช่นนั้นจะเกิดเหตุ คนคลั่งยาทำร้ายคนในครอบครัว ทำร้ายชาวบ้าน กระทั่งกรณีอดีตตำรวจที่หนองบัวลำภู ซึ่งมีพฤติกรรมเสพยา ก่อเหตุฆ่าหมู่ดังคนบ้าคลั่ง
บทเรียนจากเหตุใหญ่อันสะเทือนใจคนไปทั่วทั้งโลกคราวนี้จะต้องมีบทสรุปที่ชัดเจน และต้องยกระดับมาตรการด้านต่างๆ อย่างเป็นเรื่องเป็นราวกว่าปัจจุบัน
สำหรับบิ๊กเด่นแล้ว เส้นทางการทำงานก่อนมาถึงผบ.ตร. ถือว่าครบเครื่องเรื่องงานหลักๆ
การมาเป็นผบ.ตร.ไม่ต้องเสียเวลาเรียนรู้อะไร สั่งสมความรอบรู้มามากมาย ดังนั้นเรื่องยาเสพติด คงได้เห็นบิ๊กเด่นเร่งยกระดับการทำงานของตำรวจได้ทันทีต่อจากนี้!
อันดับแรก คงเร่งตรวจสอบตำรวจที่อยู่ในเครื่องแบบวันนี้ยังมีพวกติดยาเสพยาแอบแฝงอยู่อีกหรือไม่ ต้องเร่งค้นหาให้ได้ ปลดพ้นจากราชการ ดำเนินคดีและนำไปบำบัด
พร้อมกับการค้นหาผู้ติดยา ที่มีเกลื่อนกลาด ต้องนำไปรักษาให้กลับเป็นคนปกติ ไม่ให้เป็นภัยต่อชาวบ้าน
ส่วนการสืบจับขบวนการค้ายา คงยิ่งต้องทำหนักมือขึ้น เพียงแต่ประเด็นนี้ นโยบายระดับรัฐบาลสำคัญยิ่งกว่า
นายกรัฐมนตรีจะมาสั่งลอยๆ หลังเหตุการณ์นี้ กำชับทุกหน่วยเร่งปราบปรามยาเสพติดมากขึ้น ถ้าคิดได้แค่นี้ น่าจะลำบาก!?
รัฐบาลต้องมีไอเดียมีวิสัยทัศน์ที่เหนือกว่านี้ จะแก้ปัญหายาบ้าที่ต้นทางได้อย่างไร
ในยุครัฐบาลนี้ อยู่มา 8 ปีแล้ว ราคายาบ้ายิ่งถูก เพราะขายกันเกร่อ จากยุคสงครามยาเสพติด ที่ทำให้ราคาเม็ดละ 400 บาท แต่ยุคนี้ 4 เม็ด 100 บาท
ส่วนตำรวจยุคบิ๊กเด่นก็ต้องเร่งปราบยาบ้า เร่งหาคนเสพไปบำบัดให้รวดเร็ว และเอกซเรย์ตำรวจเข้มข้น ไม่ให้มีผู้เสพยาแอบแฝงอยู่อีก!!
วงค์ ตาวัน
