ความร้ายแรงของปัญหายาเสพติดในสังคมไทย หรือจะเรียกว่าความล้มเหลวในการแก้ปัญหายาเสพติดของประเทศไทยก็คงจะได้ นั่นคือ นักโทษคดียาเสพติดมีล้นเรือนจำ

เพราะระบาดกันมากมายระบาดมายาวนาน จับกุมดำเนินคดีติดคุกติดตะรางกันเสียจน ไม่มีเรือนจำพอจะคุมขังแล้ว

จนกระทั่งเกิดแนวทางแก้ปัญหา ด้วยการแยกผู้เสพยาออกจากผู้ค้า

ตีความว่าผู้ติดยาคือผู้ป่วย ต้องส่งเข้าบำบัดรักษา เพื่อให้กลับคืนเป็นคนปกติ

ถือเป็นแนวทางลดจำนวนนักโทษยาเสพติด แก้ปัญหาล้นเรือนจำ รวมทั้งเพื่อเปิดโอกาสให้คนที่เสพยา ไม่ใช่ผู้ค้า ได้มีโอกาสใหม่ในชีวิต

มีการกำหนดเอาไว้ว่า ถ้าถูกจับกุมพร้อมของกลางยาบ้า ไม่เกิน 15 เม็ด เข้าข่ายเป็นผู้เสพ ถือเป็นผู้ป่วย ส่งตัวไปรักษา ไม่ต้องเป็นคดีไปล้นศาลและไปล้นเรือนจำ!

มาล่าสุด หลังเหตุการณ์อดีตตำรวจคลั่ง 37 ศพ เกิดแรงกดดันต่อรัฐบาล ให้เร่งกวาดล้างยาเสพติด

ทั้งตำรวจและมหาดไทย ผนึกกำลังออกมาตรการกวาดล้างครั้งใหญ่








Advertisement

ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ต้องเปิดทำเนียบเรียกประชุมทุกหน่วยงานเอง พร้อมคิดค้นไอเดียเพื่อยกระดับ ไม่เช่นนั้นจะถูกเปรียบเทียบกับยุคทักษิณ

เกิดแนวคิดว่า ปัญหาคนเสพที่ไม่ถือว่าเป็นผู้ค้า แต่มีการก่อเหตุคลุ้มคลั่งอาละวาดบ่อยๆ ฆ่าคน ทำร้ายพ่อแม่ เผารถ เผาบ้าน

พล.อ.ประยุทธ์เลยนำเสนอแนวทาง ลดจำนวนของกลาง จากเดิม 15 เม็ดลงไป ให้แก้เป็น 5 เม็ดลงไป จึงจะถือว่ามีไว้เสพ!?

เท่ากับจะปรับเกณฑ์ การแยกผู้มียาไว้เสพให้แคบลงไป คงเพื่อแก้ปัญหา พวกที่โดนแค่คดีเสพ แต่ไม่สามารถบำบัดรักษาได้ กลายเป็นคนก่อเหตุอันตรายมากมาย

แต่แนวคิดนี้ ยังจะต้องนำไปศึกษากันต่อ ว่าควรแก้กฎหมายจาก 15 เม็ด เหลือแค่ 5 เม็ดหรือไม่ ข้อดีข้อเสียคืออะไร

ที่เห็นแน่ๆ เลย ถ้าปรับเกณฑ์แบบนี้ คดีผู้ค้ายาจะเพิ่มขึ้น คนจะยิ่งล้นคุก!

ถ้าศึกษาให้ดีจะพบว่า ทำไมคนที่โดนจับแล้วถือว่าเป็นผู้เสพ กลับไม่สามารถรักษาให้หายได้ กลายเป็นไอ้คลั่งก่อเรื่องเนืองๆ

อาจเป็นเพราะระบบสาธารณสุข ยังไม่สามารถรองรับการบำบัดได้ดีพอ

การใช้แนวทาง ถือว่าผู้เสพเป็นผู้ป่วย เป็นแนวคิดที่ดี แต่มาตรการบำบัดรักษานั้น รัฐบาลไม่ได้เพิ่มงบประมาณให้สาธารณสุข ไม่มีศูนย์แยกต่างหาก ไม่มีบุคลากรเพิ่ม

เช่นนี้หรือเปล่า จึงทำให้การบำบัดรักษายังไม่ถึงที่สุด !!

ที่ผ่านมา ตำรวจจับผู้ต้องหา พอพบว่ามียาไม่เกิน 15 เม็ด และพฤติกรรมไม่ใช่ผู้ค้า ก็ส่งบำบัด แต่ไม่กี่วันก็กลับมาอยู่บ้านอีก เมายาเหมือนเดิมอีก

จึงต้องศึกษาให้ดี ก่อนจะแก้กฎหมาย 15 เม็ดเหลือ 5 เม็ด

ยกระดับการบำบัดรักษาให้เป็นจริงเป็นจังก่อนดีหรือไม่!?!

วงค์ ตาวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน