สมาชิกวุฒิสภาชุดปัจจุบัน กำลังจะหมดวาระในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ หลังจากทำหน้าที่มาครบ 5 ปี เป็นไปตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเขียนในยุคคณะรัฐประหารคสช. และกระบวนการแต่งตั้ง 250 สว.ชุดนี้ก็อยู่ในช่วงอำนาจคณะรัฐประหาร

แต่กว่าจะได้มาซึ่งสว.ชุดต่อไป ต้องใช้กระบวนการเลือกเข้ามาอย่างสลับซับซ้อนมากๆ ต้องใช้เวลาอีกไม่น้อย

ดังนั้น 250 สว.ชุดที่จะหมดวาระในเดือนพฤษภาคม ยังจะทำหน้าที่รักษาการต่อไป จนกว่าชุดใหม่จะเข้ามาทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบ ซึ่งคงใช้เวลาหลายเดือนทีเดียว!?

กระนั้นก็ตาม แม้พวกสว.หน้าเดิมเหล่านี้ยังทำหน้าที่รักษาการต่อไป แต่จะหมดอำนาจหน้าที่สำคัญ

นั่นคือ จะไม่มีอำนาจร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีอีกแล้ว เพราะบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญให้อำนาจดังกล่าวเอาไว้ 5 ปี

อำนาจสว.ร่วมโหวตเลือกนายกฯ นี่แหละ ที่เป็นปมปัญหาของประชาธิปไตยไทยมาตลอด กำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว!!

ขณะเดียวกัน เงื่อนไขอีกอย่างที่ผูกมัดเอาไว้

สว.ชุดที่กำลังจะหมดวาระ ต้องเว้นวรรคการเมือง 2 ปี และห้ามลงสมัครสว.ชุดต่อไป

ประเด็นนี้นับว่าน่ายินดี!

เพราะกลุ่มสว.หน้าเดิมๆ กลุ่มหนึ่ง ซึ่งอยู่กับการแต่งตั้งการลากตั้งมายาวนาน จะไม่สามารถเข้ามานั่งในสภาได้อีกอย่างน้อย 2 ปี

ประเภทได้ดิบได้ดีเพราะการลากตั้งมาแบบข้ามทศวรรษ จะได้หมดบทบาทในสภาเสียที!!

ทั้งหลายทั้งปวงนี้ ทำให้เข้าใจได้ว่า เหตุใดสว.กลุ่มหนึ่ง จึงพยายามอย่างมากในการขอเปิดอภิปรายซักฟอกรัฐบาล

เพราะเป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว ที่จะได้สำแดงฤทธิ์เดช

อีกทั้งจริงๆ แล้ว กลุ่มสว.กลุ่มนี้ก็คือกลุ่มที่ต่อต้านพรรคเพื่อไทย และนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน มาตั้งแต่ต้น

โดยในการโหวตเลือกเศรษฐาเป็นนายกฯ เมื่อ 22 สิงหาคม 2566 นั้น สว.กลุ่มนี้มี 13 เสียงที่โหวตไม่เห็นชอบ!

ขณะที่สว.ถึง 152 เสียงที่โหวตเห็นชอบให้เศรษฐาเป็นนายกฯ

สว.กลุ่ม 13 เสียง ก็เป็นกลุ่มที่เคลื่อนไหวต่อต้านการกลับบ้านของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร อย่างหัวชนฝา

แม้ว่าเครือข่ายอนุรักษนิยมทางการเมือง ทั้งในสว. ในกองทัพ โดยส่วนใหญ่ ก้าวข้ามประเด็นนี้ไปแล้ว

พราะการเมืองเปลี่ยนแปลงไปมาก รัฐบาลเศรษฐาซึ่งเป็น “รัฐบาลพิเศษ” มีความมั่นคง อยู่ได้ครบ 4 ปีไม่ยากเย็น

เหลืออยู่กลุ่มเดียวที่ยังไม่ยอมรับว่าการเมืองเปลี่ยนแปลงไปแล้ว เพราะฝังใจเกลียดชังทักษิณและเพื่อไทย

รวมทั้งหนทางได้ดิบได้ดีของคนกลุ่มนี้ มีทางเดียวคือ ระบบที่ไม่ใช่ประชาธิปไตยจากการเลือกตั้งโดยประชาชน!!

วงค์ ตาวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน