จากข้อมูลสภาพอากาศแปรปรวน สภาวะเอนโซ่ สภาวะลานีญา เป็นที่คาดหมายว่าปลายเดือนกรกฎาคมนี้ไปจนถึงเดือนสิงหาคม ประเทศไทยจะยังมีฝนตกหนัก ปัญหาอุทกภัยน้ำท่วมคงติดตามมา
เป็นอีกปัญหาที่รัฐบาลเศรษฐาจะต้องรับมือให้ได้ เพราะภัยน้ำท่วมมักสร้างปัญหาให้ชาวบ้านในวงกว้าง
ดูแล้วนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ก็ตื่นตัวในเรื่องนี้ดี เพราะมีคำสั่งล่าสุด ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งป้องกันและดูแลประชาชน!
เน้นย้ำไปผู้ว่าราชการจังหวัดตราดและจันทบุรี ซึ่งตอนนี้เกิดภาวะน้ำท่วมรุนแรง
พร้อมกับสั่งการถึงร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ให้เร่งควบคุมแก้ไขสถานการณ์ โดยเฉพาะผลกระทบที่จะเกิดกับเกษตรกร
พืชสวน นาข้าว รวมทั้งปศุสัตว์ โดนภัยพิบัตินี้เต็มๆ!!
คงไม่แค่ 2 จังหวัดนี้ มีข้อมูลว่า เริ่มมีผลกระทบน้ำท่วมนาข้าวอีกหลายจังหวัด
หากฝนยังชุก ยังจะต้องระวังป้องกันในพื้นที่ทั่วประเทศ
แต่เมื่อนายกฯ เศรษฐาตื่นตัวเรื่องนี้รวดเร็ว ก็น่าจะมีผลกระตุ้นไปถึงทุกหน่วยงาน และทุกผู้ว่าฯ
ต้องเร่งประเมินสภาพน้ำตามแม่น้ำลำคลองต่างๆ เพิ่มสูงถึงขั้นวิกฤตหรือยัง
เตรียมช่องทางระบายน้ำ การผันน้ำ การป้องกันตัวเมืองต่างๆ ป้องกันแหล่งเพาะปลูกการเกษตร จนถึงพื้นที่สำหรับพักพิงชั่วคราวให้กับผู้ประสบภัย!
ถ้าทุกพื้นที่เตรียมการรอบด้านและล่วงหน้า เชื่อว่าหากเกิดอุทกภัยจริงๆ จะสามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาได้
ระหว่างนี้ 2 กระทรวงใหญ่ที่เกี่ยวข้อง คือ มหาดไทยและเกษตรฯ ต้องมีความพร้อม
ทั้งผู้ว่าฯ นายอำเภอ องค์กรท้องถิ่น รวมทั้งหน่วยงานด้านเกษตร ปศุสัตว์ ชลประทาน มีบทบาทสำคัญ
เชื่อว่านายกฯ เศรษฐา คงกำชับทั้ง 2 รัฐมนตรี ให้เดินเครื่องกันเต็มที่!
จะว่าไปแล้ว ภัยพิบัติน้ำท่วม ไม่แค่สร้างความทุกข์ให้กับชาวบ้าน
ในสายตาขององค์กรธุรกิจ มองไปถึงผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม เพราะความเสียหายของพืชผลเกษตร จะมีผลต่อตัวเลขจีดีพี
แถมอาจจะมีผลต่อโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ประสบภัยอีก ลามไปถึงกระทบการท่องเที่ยว มีผลเชื่อมโยงไปมากมาย
การป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจึงไม่ใช่เรื่องที่จะเฉยชา ปล่อยไปตามสภาพธรรมชาติ
อย่าเป็นประเภท เมื่อฝนตกหนัก น้ำก็ต้องท่วมเป็นธรรมดา
ยังดีที่นายกฯ ห่วงใยปัญหานี้เร็ว และความขยันลงตรวจพื้นที่ น่าจะมีผลดีในการป้องกันแก้ไข!!
วงค์ ตาวัน