ถ้าจะมีการสรุปภาพรวมความเคลื่อนไหวการเมืองไทยในรอบปี 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งกำลังจะเข้าสู่ปี 2568 ในอีกไม่กี่วันนี้ คงต้องมีเรื่องพรรคการเมืองใหม่ “พรรคกล้าธรรม” เป็นประเด็นหนึ่งที่ต้องพูดถึง ในฐานะพรรคการเมืองที่ตั้งปุ๊บเติบโตปั๊บ ตอนนี้มีสส. 24 คนแล้ว
โดยชื่อพรรคกล้าธรรม เป็นที่รู้จักในวงกว้างครั้งแรก จากการตั้งครม.แพทองธาร ชินวัตร เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา
มีชื่อดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เข้ามาเป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม พรรคใหม่ที่เข้าร่วมรัฐบาล
แถมมีโควตารัฐมนตรีอีก 2 เก้าอี้ในกระทรวงนี้อีกด้วย คือ นายอิทธิ ศิริลัทธยากร และนายอัครา พรหมเผ่า เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ
แต่ก็พอจะเข้าใจได้ไม่ยาก เพราะก่อนหน้านั้น เก้าอี้กระทรวงเกษตรฯ ในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็น รมว. และนายอรรถกร ศิริลัทธยากร เป็น รมช.
เมื่อเป็นรัฐบาลแพทองธาร เขี่ยพลังประชารัฐออกไป ทำให้พรรคกล้าธรรมเข้ามาทดแทน!
คอการเมืองรู้กันดีว่าดร.นฤมลกับร.อ.ธรรมนัสนั้น ทีมการเมืองเดียวกันมาตลอด
พรรคกล้าธรรม เกิดขึ้นมาใหม่ เพื่อเตรียมรับเครือข่ายการเมืองนี้
หลังจากดร.นฤมล เข้ามาเป็นรัฐมนตรี ได้ไม่นาน มีสส.จากพรรคเล็กเข้ามาสังกัดพรรคกล้าธรรมทันที 4 คน
ล่าสุดเมื่อพลังประชารัฐ ยอมมีมติขับร.อ.ธรรมนัสกับทีมรวม 20 สส.
ตอนนี้พรรคกล้าธรรมก็เลยโตแบบก้าวกระโดด มีสส.ในสังกัดถึง 24 คน!!
จึงต้องบอกว่า ถ้าจะสรุปประเด็นการเมืองไทยในรอบปี 2567 ที่กำลังจะผ่านพ้น
ต้องมีประเด็นพรรคกล้าธรรม ในฐานะพรรคใหม่ใช้เวลาไม่นาน
กลายเป็นพรรคขยายตัวรวดเร็ว
ไม่ใช่แค่พรรคเล็กๆ แต่เป็นพรรคระดับกลางในทางการเมืองเลยทีเดียว!
แต่ที่เหนือกว่านั้น การเกิดและเติบโตของพรรคนี้ มีส่วนสัมพันธ์กับการหดตัวลงของพรรคพลังประชารัฐ ส่งผลโดยตรงต่อสถานการณ์ของลุงป้อม ที่กำลังเข้าสู่ช่วงขาลง อย่างเห็นได้ชัดเจน
ไม่เท่านั้น ยังเป็นการเพิ่มพลังให้กับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อพรรคเพื่อไทยโดยตรง!
มี 24 สส.ของกล้าธรรม เมื่อรวมกับ 25 สส.ของประชาธิปัตย์ ที่เข้าร่วมรัฐบาลแพทองธารก่อนหน้านี้
ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลอื่น อย่างภูมิใจไทย ที่ขัดแย้งกับเพื่อไทยในบางนโยบาย
สุดท้ายก็ต้องออกมายืนยันว่า ไม่มีความขัดแย้งแตกแยก อยู่ร่วมรัฐบาลกันตลอดไปแน่นอน!!
วงค์ ตาวัน