ต้องเรียกว่าผลงานสุดยอดของตำรวจ ในการคลี่คลายคดีสังหารนายลิม กิมยา อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา โดยมือปืนลงมืออย่างอุกอาจในใจกลางกรุงเทพมหานคร ท้าทายอย่างมาก แต่ลงเอยตำรวจสืบสวนนครบาล สามารถรู้ตัวมือปืนได้อย่างรวดเร็ว และติดตามจับกุมตัวได้ภายในวันเดียวหลังก่อเหตุ แม้จะหลบหนีข้ามแดนไปแล้ว
ถือเป็นเครดิตของตำรวจยุค พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และพล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น.
เพราะถ้าจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน เป็นได้โดนวิพากษ์วิจารณ์กันไปทั่วโลก
เนื่องจากคนตายนั้นเป็นนักการเมืองคู่อริของผู้มีอำนาจในกัมพูชา คงได้โถมถล่มรัฐบาลไทยจนแหลกเละ ว่าปล่อยให้มีการสังหารทางการเมืองอย่างง่ายดายได้เช่นนี้หรือ
แต่สุดท้ายตำรวจไทยก็โชว์ประสิทธิภาพงานสืบสวน และความสมบูรณ์พร้อมของเทคโนโลยีกล้องวงจรปิดที่ครบถ้วนทุกมุมของกรุงเทพฯ
ทำให้รู้ได้เร็วว่า มือปืนคือ พ.จ.อ.เอกลักษณ์ แพน้อย หรือ จ่าเอ็ม ซึ่งโดนกองทัพเรือสั่งให้ออกจากราชการไปนานแล้ว และยังติดตามไปจับกุมได้ถึงเมืองพระตะบอง!
โดยพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ หรือสารวัตรแจ๊ะคนดัง ไล่ตามไปถึงกัมพูชา
ประสานกับตำรวจเขมร จนสามารถล็อกตัวจ่าเอ็ม เอาไว้ได้
ได้ตัวมือปืนมาเช่นนี้ ก็คงสามารถสืบสาวต่อไป จนได้รู้ถึงเบื้องหน้าเบื้องหลัง ใครสั่งฆ่า!?!
ชนวนเหตุที่แท้จริงมาจากอะไรกันแน่
แต่อย่างน้อยก็ชัดเจนว่า เมื่อเกิดเหตุ ตำรวจไทยและรัฐบาลไทยไม่ได้ปล่อยปละละเลย และจับกุมได้ทันควัน
ยิ่งเหยื่อเป็นนักการเมืองกัมพูชา อริกับผู้มีอำนาจ
ตำรวจไทยและรัฐบาลไทย ก็ไม่ได้เฉยเมย
ขณะเดียวกัน เมื่อประสานไปยังตำรวจกัมพูชา ก็ช่วยกันจับกุมตัวเอาไว้ได้ในดินแดนกัมพูชา
จริงจังทั้งตำรวจไทยและตำรวจเขมร!
จากนี้ไปรอดูขั้นตอนการสอบมือปืน และการติดตามคนที่ทำหน้าที่ชี้เป้าซึ่งรู้ตัวแล้ว จะได้ชัดเจนว่า กระบวนการสังหารจากใบสั่งใคร
ที่แน่ๆ ประสิทธิภาพของตำรวจไทย ของผบ.ตร.บิ๊กต่าย และผบช.น.บิ๊กสยาม น่าจะทำให้ใครก็ตามที่คิดจะก่อเหตุร้าย ต้องคิดให้ดี
อีกทั้งระบบกล้องวงจรปิด เป็นเครื่องมือสำคัญอย่างมาก คงต้องเสริมให้สมบูรณ์แน่นหนา
กล้องวงจรปิดทำให้เห็นตัวจ่าเอ็มตั้งแต่มาเฝ้ารอก่อนลงมือ ยิงเสร็จหนีไปไหน ไปจอดเอาเสื้อวินมอเตอร์ไซค์มาสวมใส่ ทำให้รู้ว่าอยู่วินไหน เป็นใคร
เป็นผลงานชิ้นสำคัญ มาจากทั้งฝีมือและเครื่องไม้ เครื่องมือ
ช่วยตัดประเด็นโจมตีทางการเมืองไปพร้อมกันด้วย!
วงค์ ตาวัน