ชัดเจนว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งมิจฉาชีพออนไลน์ ในเมืองชายแดนฝั่งเมียนมา โดนปฏิบัติการเด็ดขาดจากรัฐบาลไทย จนอยู่ในภาวะเมืองแตก ต้องอพยพหลบหนีกันอลหม่าน ย้ายฐานจากฝั่งตะวันตกไปยังฝั่งตะวันออก โดยปลายทางคือมุ่งหน้าไปยังปอยเปต หรืออาจจะไปทางลาวด้วย
มีเหตุการณ์ที่น่าสนใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นสถานการณ์ดังกล่าว
เมื่อสองสามวันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสระแก้วได้รับการประสานงาน เข้าควบคุมรถยนต์คันหนึ่ง ที่บริเวณสี่แยกไฟแดงกลางเมือง
รถยนต์มีคนไทยเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสารชาวจีน 5 คน โทรศัพท์มือถือ 19 เครื่อง
สอบสวนชาวจีนทั้ง 5 คน ให้การว่าถูกหลอกมาทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่เมืองเมียวดี เมียนมา
แต่หลังจากถูกทางการไทยตัดกระแสไฟฟ้า ตัดน้ำมัน ทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีนโยบายย้ายฐานที่ตั้งไปอยู่เมืองปอยเปต!
กลุ่มชาวจีนให้การด้วยว่า ที่ผ่านมาได้ทยอยพาชาวจีนระดับหัวหน้าออกไปก่อนเป็นกลุ่มย่อยๆ
เดินทางเข้าไปวางระบบ เตรียมความพร้อมที่ฝั่งกัมพูชา ก่อนจะเคลื่อนย้ายพนักงานตามไปทำงาน
ระหว่างเดินทาง พวกตนตัดสินใจจะเลิกอาชีพนี้ ต้องการเดินทางกลับจีน จึงได้โทร.ขอความช่วยเหลือศูนย์ 1155 ของตำรวจท่องเที่ยว
ส่วนชาวไทยที่เป็นคนขับรถได้รับว่าจ้างให้พาคนจีนไปส่งที่ชายแดนสระแก้ว รับตัวมาจากชายแดนภาคเหนือ
หลังจากตำรวจท่องเที่ยวได้รับแจ้งจากคนจีน ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง จนพบว่าเดินทางเข้าเขตสระแก้ว จึงประสานตำรวจท้องที่ควบคุมตัวเอาไว้ได้!
เท่ากับสามารถช่วยเหลือชาวจีน 5 ราย ที่ตัดสินใจเลิกอาชีพคอลเซ็นเตอร์ได้หวุดหวิด กำลังจะไปถึงชายแดนแล้ว
พร้อมๆ กับได้พบวิธีการขนย้ายทีมงานคอลเซ็นเตอร์ จากฝั่งเมียนมา
เหตุการณ์นี้ อาจเป็นตัวอย่างทำให้คนจีนหรือคนต่างด้าวอื่นๆ ที่กำลังต้องเดินทางไปยังปอยเปตเพื่อย้ายฐานปฏิบัติการ ได้พบทางออก
สามารถติดต่อ 1155 ตำรวจท่องเที่ยว เพื่อให้ช่วยเหลือได้!!
เลิกเสียเถิดอาชีพหลอกลวงผู้คนผิดกฎหมาย
เช่นเดียวกัน คนไทยที่ได้รับว่าจ้างให้รับคนจีนหรือคนต่างด้าว เดินทางจากชายแดนเมียนมา ไปส่งที่ชายแดนสระแก้ว จงรู้ตัวว่ากำลังทำผิดกฎหมาย
เป็นการร่วมมือกับแก๊งมิจฉาชีพที่สร้างความเสียหายให้กับคนไทยรุนแรง
เห็นใครมาว่าจ้างแบบนี้ เมื่อรับตัวคนต่างด้าวจากชายแดนพม่าแบบนี้ ควรแจ้งตำรวจทันที!
เข้าข่าย กำลังรับสมาชิกแก๊งคอลเพื่อย้ายฐานไปยังปอยเปตแน่ๆ
ต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา ช่วงนี้แก๊งคอลกำลังอพยพย้ายฐาน ต้องร่วมมือกันสกัดกั้น!!
วงค์ ตาวัน