การเดินทางไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ของคณะรัฐบาลไทย นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เพื่อเยี่ยมเยียนชาวอุยกูร์ ไปพิสูจน์ให้เห็นว่า หลังไทยส่งกลับมายังบ้านเกิดแล้ว ได้รับการปฏิบัติเช่นไร
โดยไปเยือนถึงเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ 2 วันเต็มๆ
ภาพที่ปรากฏให้เห็น ชาวอุยกูร์ที่ออกจากไทยกลับมาซินเจียง เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์นั้น วันนี้อยู่กับครอบครัวอย่างปกติดีมีความสุข
แต่ก็นั่นแหละ ฝ่ายที่ไม่เชื่อ ก็มีข้อสงสัย จัดฉากหรือไม่
การพิสูจน์ความจริงในเรื่องนี้ คงต้องใช้ระยะเวลาอีกไม่น้อย
เพียงแต่หลังผ่านไปเกือบ 1 เดือน เมื่อคณะของภูมิธรรม-ทวี เดินทางมาเยี่ยม ก็พบว่าทางการจีนได้ปฏิบัติตามข้อตกลง คนเหล่านี้ได้กลับบ้านไปอยู่กับครอบครัว ไม่มีการจับไปขัง ไม่มีการเข่นฆ่า!!
ฝ่ายที่ไม่เชื่อ ก็คงจะมีข้อสงสัยว่า ในระยะยาวอาจจะไม่เป็นเช่นนี้ก็ได้
นั่นก็เป็นเรื่องในภายภาคหน้า แต่ในวันนี้ยังไม่มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น
อย่างน้อยไทยเราก็มีหลักฐานข้อเท็จจริง จากการเดินทางไปดูด้วยตาของคณะรองนายกฯ
พิสูจน์ได้ว่า จีนได้ทำตามข้อตกลง ซึ่งทำให้ไทยมั่นใจจนยอมส่งชาวอุยกูร์ที่กักขังอยู่กลับไปยังซินเจียง
เป็นภาพที่จะสื่อไปถึงทั่วโลกว่า ไทยไม่ได้ส่งอุยกูร์กลับไปตายอะไรเช่นนั้น!
ขณะเดียวกันในโลกยุคปัจจุบัน หากผ่านไปจากนี้อีกระยะแล้วโดนปฏิบัติในทางเลวร้าย เชื่อว่าข้อมูลข่าวสารคงเล็ดลอดออกมาได้ไม่ยาก
มหาอำนาจที่ยืนตรงข้ามกับจีน คงพร้อมจะเอาข้อมูลออกตีแผ่ให้ได้รู้กัน
นั่นก็ต้องรอดูกันต่อไป เพียงแต่ในวันนี้ ไทยได้ไปพิสูจน์ให้เห็นว่า ยังอยู่ดีตามข้อตกลง!
อีกอย่างหากเราศึกษาข้อมูลจะพบว่า ขบวนการต่อต้านรัฐบาลจีนในซินเจียง ลดหายไปมากแล้ว
รัฐบาลจีนเองเขาก็มีแนวทางดึงมวลชน ทำให้ชาวอุยกูร์มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อโดดเดี่ยวขบวนการต่อสู้รุนแรง
อย่าง 40 คนนี้ มีแต่จะยิ่งประคบประหงม เพื่อลบล้างภาพที่ถูกฝ่ายตะวันตกโจมตีจีนมาตลอด!
เชื่อว่าถ้าจีนเดินแนวทางนี้ เพื่อทำให้คนอุยกูร์ส่วนใหญ่ไม่ไปร่วมมือกับกลุ่มก่อความรุนแรง จีนก็จะชนะในปัญหาซินเจียง
ไทยเราก็รอดพ้นข้อโจมตีว่าส่งคนไปตาย
การตัดสินใจของไทยในเรื่องนี้ มีทางเลือกน้อยนิด แต่ต้องยอมรับหลักที่ว่า ไทยเราต้องยึดผลประโยชน์ของเรา
ปีนี้ครบรอบ 50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน จะมีความร่วมมือระดับสำคัญๆ มากมาย!!
วงค์ ตาวัน