วงล้อเศรษฐกิจ

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด

คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.50% ต่อเนื่อง ในการประชุมวันที่ 29 มี.ค. โดยมีเหตุผลสนับสนุนดังนี้

– กนง. น่าจะยืนอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำที่ 1.50% ต่อเนื่องอีกระยะ เพื่อช่วยหนุนให้การฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศมีความต่อเนื่อง

– แรงกดดันต่อการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของไทยในระยะนี้ยังมีไม่มาก เป็นที่น่าสังเกตว่าธนาคารกลางของบางประเทศเริ่มทยอยลดระดับการผ่อนคลายของนโยบายการเงินลงมาบางส่วน ภายหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ย Fed Funds ในรอบการประชุมเดือนมี.ค.ล่าสุด อาทิ ธนาคารกลางจีนประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในตลาดเงิน และธนาคารกลางฮ่องกงที่ขยับขึ้นดอกเบี้ยตามเฟด

อย่างไรก็ดี ในกรณีของประเทศไทย จะเห็นได้ว่าผลกระทบจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดต่อตลาดการเงินไทย ยังมีไม่มาก ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะมีสาเหตุมาจากสัญญาณจากเฟดที่ยังไม่เร่งจังหวะการขึ้นดอกเบี้ย

ดังนั้น แม้ช่องว่างระหว่างดอกเบี้ยนโยบายของไทยและสหรัฐจะเริ่มแคบลง แต่ความผันผวนที่มีต่อตลาดเงิน-ตลาดทุนไทยก็ยังคงอยู่ในกรอบที่ทางการสามารถบริหารจัดการได้ ประกอบกับเครื่องชี้เสถียรภาพต่างประเทศของไทยเองก็ยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง สภาพคล่องในประเทศที่มีอยู่ในระดับสูง

สำหรับทิศทางนโยบายการเงินของไทยในระยะที่เหลือของปี 2560 นั้น คาดว่ากนง.น่าจะยังคงดอกเบี้ยนโยบายของไทยที่ระดับ 1.50% ต่อเนื่องตลอดช่วงครึ่งแรกของปี 2560 เพื่อช่วยสนับสนุนให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยมีความแข็งแกร่งมากขึ้น

อย่างไรก็ดี คงต้องติดตามจังหวะการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในช่วงที่เหลือของปีอย่างใกล้ชิด เพราะคงต้องยอม รับว่า หากเศรษฐกิจสหรัฐยังสามารถประคองโมเมนตัมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมๆ กับสัญญาณตึงตัวของตลาดแรงงาน และทิศทางเงินเฟ้อที่ขยับขึ้นเหนือระดับเป้าหมาย เฟดก็อาจจะมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนท่าที และ/หรือส่งสัญญาณในเชิงที่คุมเข้มมากขึ้นกว่าเดิม

ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลต่อเนื่องมายังทิศทางดอกเบี้ยทั่วโลกและไทย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน