วงล้อเศรษฐกิจ

โดย ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี

ผลสำรวจความเห็นผู้ประกอบการ SME ต่อเทศกาลสงกรานต์ปี 2560 จำนวน 484 กิจการทั่วประเทศ ช่วงเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา โดยศูนย์บริหารความสัมพันธ์ลูกค้า เอสเอ็มอี(RMC) ทีเอ็มบี

พบว่า SME 24% หรือสัดส่วน 1 ใน 4 ระบุว่า ธุรกิจได้ปรับกลยุทธ์การทำธุรกิจให้สอดคล้องกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยธุรกิจค้าปลีก/ค้าส่ง มีการเตรียมสต๊อกสินค้าและโปรโมชั่นต่างๆ รองรับยอดขายช่วงสงกรานต์

ส่วนธุรกิจกลุ่มผู้ผลิตได้เร่งกำลังการผลิตไปแล้วก่อนหน้าเพื่อให้ทันกับคำสั่งซื้อของร้านค้า ด้านธุรกิจบริการเน้นขยายเวลาการให้บริการลูกค้ายาวขึ้นกว่าปกติ ส่วนธุรกิจอีก 76% หรือ 3 ใน 4 ระบุว่าดำเนินธุรกิจตามปกติ และบางส่วนปิดกิจการเพื่อให้พนักงานหยุดในช่วงเทศกาล

ด้านสิ่งที่เถ้าแก่ SME อยากได้เป็นของขวัญวันสงกรานต์ ปีนี้ “มากที่สุด” คือ มาตรการสนับสนุนจากรัฐบาล โดย ผู้ประกอบการกว่า 28% เห็นว่ามาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยและกระตุ้นการท่องเที่ยว เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา สามารถช่วยสร้างเม็ดเงินจับจ่ายใช้สอยและหนุนรายได้ธุรกิจให้สูงขึ้น

ส่วนมาตรการอื่นๆ ที่ต้องการเพื่อเสริมการดำเนินธุรกิจ เช่น มาตรการช่วยเหลือเรื่องสภาพคล่องและดอกเบี้ย มาตรการช่วยเหลือเกษตรกร และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ เป็นต้น

ของขวัญอันดับที่สองที่ผู้ประกอบการ 26% ต้องการ คือ สินเชื่อ/เงินทุนหมุนเวียนเพิ่มและดอกเบี้ยลดลง เนื่องจากช่วงสงกรานต์ธุรกิจต้องมีวัตถุดิบและสต๊อกสินค้าเพื่อรองรับยอดขายเพิ่ม ทำให้สภาพคล่องของธุรกิจในช่วงสงกรานต์ลดลง และเป็นข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจ

ของขวัญอันดับที่ 3 ที่ธุรกิจ 12% ต้องการคือ ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะราคาข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ที่ปรับตัวลดลงก่อนหน้านี้บั่นทอนกำลังซื้อประชาชนในภูมิภาคและส่งผลกระทบต่อรายได้ธุรกิจ SME ลดลง หากราคาผลผลิตดีขึ้น ย่อมส่งผลบวกต่อรายได้ SME ในพื้นที่

ของขวัญอันดับที่ 4 ที่ผู้ประกอบการ 5% ต้องการคือ ต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาราคาน้ำมันเชื้อเพลิงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องกระทบกับต้นทุนของธุรกิจ SME

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการ SME 12% มองว่าไม่ต้องการอะไรเป็นพิเศษในช่วงเวลาดังกล่าว เนื่องจากธุรกิจยังสามารถดำเนินกิจการได้ตามปกติเช่นเดียวกับช่วงปีที่ผ่านมา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน