เมืองไทย 25 น.

ทวี มีเงิน

เคยเขียนเรื่อง “บ้านประชารัฐ” มาหลายครั้งเห็นว่าเป็นโครงการที่ดีช่วยให้คนมีรายได้น้อยจะได้มีบ้าน ซึ่งเป็น 1 ในปัจจัย 4 เป็นของตัวเอง เชื่อหรือไม่ โครงการดีๆ อย่างนี้ผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ กลับไม่สนใจเพราะสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ได้รับ น้อยกว่า เงื่อนไขที่แบงก์พาณิชย์ประเคนให้เสียอีก

ช่องว่างตรงนี้จึงทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กๆ และผู้ประกอบการหน้าใหม่เท่านั้นที่ยอมลงมาเล่น

ครั้นพอเข้ามาจริงๆ ก็มาก็ติดเงื่อนไขที่แบงก์รัฐในที่นี้คือ “แบงก์กรุงไทย” ที่รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ปล่อยกู้กับ ผู้ประกอบการ แต่ในทางปฏิบัติกลับไม่ยอมปล่อยกู้ อ้างสารพัดเช่นเป็นหน้าใหม่ในวงการอสังหาฯ ทั้งที่ความจริงก็อยู่ในวงการธุรกิจมานานและเป็นลูกค้าชั้นดีของแบงก์กรุงไทย ส่วนสาเหตุที่มาลุยธุรกิจอสังหาฯผุดคอนโดฯราคาถูก โครงการเล็กๆ 2 เฟส แถวถนนราชพฤกษ์ ก็ด้วยความตั้งใจอยากจะให้คนที่มีรายได้น้อยมีโอกาสมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง แทนที่จะเช่าเขาอยู่

นี่เป็นความตั้งใจก่อนที่รัฐบาลจะมีโครงการบ้านประชารัฐ เสียอีก

โครงการเปิดขายตั้งแต่ต้นปีไม่กี่วันก็หมด จังหวะพอดีกับรัฐบาลมีโครงการบ้านประชารัฐจึงนำคอนโดฯเข้าโครงการยื่นเรื่องขอกู้แบงก์ตั้งแต่มี.ค.เรื่องเงียบฉี่ ล่าสุดแบงก์ก็มีหนังสือ แจ้งกลับมาว่า ไม่มีนโยบายปล่อยกู้ให้กับโครงการที่ราคาต่ำกว่า ห้องละ 1.5 ล้านบาท แปลไทยเป็นไทยก็ได้ความว่าแบงก์ กรุงไทยไม่สนองนโยบายบ้านประชารัฐของรัฐบาล แล้วจะมีโครงการนี้ไปเพื่ออะไร

ล่าสุดแบงก์กรุงไทยได้เรียกเจ้าของโครงการไปคุย แล้ว ให้ยื่นเรื่องขอกู้ใหม่อีกรอบ แต่ไม่รู้ว่าจะได้รับอนุมัติหรือไม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เจ้าของโครงการเคยร้องเรียนขอความเป็นธรรมจาก “อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์” รัฐมนตรีคลังและคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน “คตง.” มาแล้วรอบหนึ่ง

การให้ยื่นเรื่องขอกู้ใหม่ เท่ากับต้องเริ่มต้นเข้าสู่กระบวนการนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง ยิ่งเสียเวลากันไปใหญ่ ยิ่งหากเรื่องล่าช้า ไม่เป็นผลดีทั้งผู้ประกอบการและลูกค้า เพราะงานต้องเดินหน้าก่อสร้างทุกวันมีรายจ่ายทุกวัน ถ้าปล่อยกู้ล่าช้าโครงการอาจสะดุดก็อาจจะสะเทือนถึงลูกค้าได้ อย่างไรก็ตามเจ้าของโครงการยืนยันว่าหากแบงก์ไม่อนุมัติ ก็อาจต้องหันไปพึ่งเงินนอกระบบแทนเสียดอกเบี้ยแพงๆ ก็ยอม

แต่จะ “ไม่ยอมทิ้งลูกค้า” และไม่ยอมเอาชื่อเสียงและอนาคตของตัวเองมาทิ้งแน่ๆ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน