เมืองไทย 25 น.

ทวี มีเงิน

ราคาสินค้าเกษตรเป็น “ดัชนี” วัดฝีมือรัฐบาลมาทุกยุคทุกสมัย แต่ “บิ๊กตู่” เจอหนักกว่าใครตั้งแต่เข้ามาบริหารประเทศ ราคาสินค้าเกษตรมีแต่ทรุดกับทรุด เฉพาะอย่างยิ่ง “ราคาข้าว” ในปีนี้ราคาร่วงหนักสุดในรอบหลายปี

ล่าสุดไม่กี่วันก่อนผู้ส่งออกไทยไปเสนอขายข้าวหอมมะลิที่จีนราคาเหลือแค่ 650 เหรียญสหรัฐ/ตัน ตกต่ำหนักที่สุดในรอบ 8 ปี ข้าว 5% เหลือแค่ 350 เหรียญสหรัฐต่อตัน หนักที่สุด ในรอบ 5 ปี ราคาอย่างนี้ตีความเป็นอื่นไม่ได้นอกจาก “ตัดราคากันเอง” แล้วมาไล่บี้กดราคาชาวนาเป็นทอดๆ

นี่คือทุกข์ของชาวนา เป็น “ปัญหาโลกแตก” ที่ยังแก้ไม่ตก

ปีที่แล้วฟ้าฝนไม่เป็นใจ แห้งแล้งอย่างหนัก ผลผลิตลดฮวบ แทนที่ราคาข้าวจะดี กลับเจอสต๊อกในโครงการรับจำนำข้าว ที่เหลือบานเบอะ เกือบๆ 18 ล้านตัน ทำให้พ่อค้าข้าวทั้งโรงสี ผู้ส่งออก เดาทางออกล่วงหน้าว่ารัฐบาลต้องทยอยโละสต๊อก ต้องไปฉุดราคาข้าวร่วงลงแน่ๆ จึงไม่เข้าไปรับซื้อรอจนกว่าข้าวราคาถูกลง

ครั้นมาปีนี้ผลผลิตนาข้าวค่อนข้างดี แต่ก็เจอปัญหาพ่อค้าข้าวไปเสนอขายตัดราคากันเองหวังแย่งส่วนแบ่งตลาด จากข้อมูลของ “ประชาชาติธุรกิจ” ระบุว่าตลาดส่งออกข้าวซบเซาอย่างมาก โดยภาพรวมการส่งออกข้าว 8 เดือนแรกของปีนี้มีปริมาณเพียง 6 ล้านตัน ขณะเดียวกันกลับมีผู้ส่งออกข้าวหน้าใหม่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ส่งออกที่พัฒนาตัวเองมาจากธุรกิจโรงสี มาเป็น ผู้ส่งออกระดับท็อป 5 ของประเทศ ได้ใช้กลยุทธ์การแข่งขันด้วยวิธีการขายตัดราคาผู้ส่งออกรายเก่า เพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาด

ในห้วง 2 ปีที่ผ่านมารัฐบาลผลักดันมาตรการต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือมากถึง 17 โครงการ เม็ดเงิน 102,784 ล้านบาท แต่ก็แค่ “น้ำจิ้ม” เพราะงบฯ ที่ใช้ค่อยๆ ทยอยออกมาและ “กระจัดกระจาย” ประกอบกับเจ้าหน้าที่ระดับล่างๆ ไม่ทำงาน ไม่กล้าตัดสินใจ กลัวจะโดนหางเลขเหมือน“คดีจำนำข้าว” ที่ข้าราชการระดับสูงในกระทรวงโดนกันเป็นแถว

หรืออย่างโครงการชดเชย ดอกเบี้ย 3% ให้กับโรงสีก็ไม่เวิร์ก ไม่ได้รับความสนใจ เนื่องจากราคาข้าวอยู่ในช่วงขาลง ดีดลูกคิดรางแก้วหักกลบลบกันแล้วโรงสีเห็นว่าไม่คุ้ม

อย่างที่รู้ๆ กันว่ารัฐบาลนี้โดน “ผีจำนำข้าวหลอน” จึงไม่กล้าอัดงบฯ เข้าช่วยชาวนาแบบให้ได้เนื้อได้หนังอย่างจำนำหรือประกันราคาข้าว

นโยบายที่ช่วยชาวนาจึงเป็นแบบขี่ม้าเลียบค่าย งบฯ ก็จิ๊บจ๊อย จึงไม่ถึงชาวนาจริงๆ ซักที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน