เมืองไทย 25 น.

ทวี มีเงิน

กรณี “บิ๊กป้อม” เช่าเหมาลำเครื่องบินการบินไทยไปประชุม ฮาวาย สหรัฐอเมริกา จนกลายเป็นประเด็นร้อนในฐานะ ผู้เสียภาษีก็อยากจะเห็น “บิ๊กตู่” ปฏิรูปงบฯ เดินทางไปต่างประเทศของคนในรัฐบาล นักการเมือง ข้าราชการ ที่ผ่านมาประชาชนไม่เคยรู้เลยว่าในแต่ละปีต้องจ่ายภาษีให้คนเหล่านี้เป็น “ค่าเดินทาง” เท่าไหร่ ควรจะมีการประเมินภารกิจที่ไปทำสำเร็จมากน้อยแค่ไหน

ในการเดินทางไปต่างประเทศมีหลายรูปแบบ มีทั้งร่วมประชุมในระดับรัฐบาล เช่น ประชุมยูเอ็น หรืออาเซียน ซึ่งเป็นหน้าตาประเทศจำเป็นต้องไป อีกรูปแบบ การไปดูงานของ ส.ส. ส.ว.หรือสนช. และกรรมาธิการชุดต่างๆ ปิดสมัยประชุมทุกครั้งก็จะต้องไปดูงานต่างประเทศแต่ไม่เห็นว่าการประชุมสภาฯ หรือคุณภาพนักการเมืองจะดีขึ้น

ยิ่งบรรดาข้าราชการกระทรวงต่างๆ รวมถึงนักการเมือง ข้าราชการท้องถิ่น ที่ไปดูงานกันไม่รู้ว่ากี่สิบปีแต่ประเทศก็ยังไม่ดีขึ้น ระบบราชการ ข้าราชการเองก็ไม่ได้มีคุณภาพมากขึ้นแต่อย่างใด หากจะไปดูงานกันจริงๆ แค่สิงคโปร์ เกาหลี ญี่ปุ่น ก็ครบทุกอย่างไม่ว่าเรื่องการศึกษา เศรษฐกิจ เทคโนโลยีอยู่ในระดับแนวหน้าของโลก ดีกว่า ทันสมัยกว่ายุโรปเสียอีก

ทุกวันนี้ งบฯ ดูงานแต่ละปีมหาศาล กลายเป็นขุมทรัพย์ของบริษัททัวร์หากอยากจะได้งานต้องนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวดีๆ ร้านอาหารหรูๆ แหล่งช็อปปิ้งและท่องเที่ยวดีๆ โปรแกรม 7 วันจะดูงาน 2 วัน ที่เหลือก็จะเที่ยวและช็อปปิ้ง

มีเรื่องเล่ากันว่า ข้าราชการไทยที่ไปร่วมประชุมดูงานภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง ฟังไม่ออก พูดไม่ได้ เวลาอยู่ในห้องบรรยายก็จะเงียบและงีบ แต่เวลาช็อปปิ้งร่าเริงกันเป็นแถว

อีกรูปแบบคือ “โรดโชว์” จะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ ไปดึง นักลงทุนเข้ามาลงทุน ทั้งลงทุนจริงๆ ลงทุนในตลาดหุ้น หรือโรดโชว์ดึงนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวมากขึ้น จะมีทั้งรัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เอกชน สื่อ งบฯ พวกนี้จะสูงแต่ก็ไม่เคยประเมินว่าหลัง “โรดโชว์” ได้ผลเป็นอย่างไร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามงานหรือไม่ มีนักลงทุนเข้ามาลงทุนจริงๆ เท่าไหร่ อย่างกรณีโรดโชว์ ดึงนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่จะไปยุโรป แต่ที่เข้ามาเห็นมีแต่ “ทัวร์ศูนย์เหรียญ”

งบฯ พวกนี้แต่ละปีไม่น้อย น่าจะต้องจัดระเบียบกันจริงๆ จังๆ เสียที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน