“บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด”

ครัวเรือนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมองภาวะการครองชีพอีก 3 เดือนข้างหน้าดีขึ้น สะท้อนจากดัชนีสะท้อนมุมมองคาดการณ์ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า (3-month Expected KR-ECI) ปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 45.8 ในเดือนก.ค. มาอยู่ที่ระดับ 46.2 ในเดือนส.ค.

โดยมุมมองของครัวเรือนที่ดีขึ้นมาจากประเด็นเรื่อง ค่าใช้จ่ายที่ในช่วง 3 เดือนข้างหน้าอาจจะมีรายการพิเศษ ไม่มาก โดยเฉพาะไม่มีวันหยุดยาว

นอกจากนี้ ครัวเรือนยังมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อประเด็นเรื่องการชำระหนี้ในอนาคต ส่วนหนึ่งเป็นเพราะครัวเรือนบางส่วนเริ่มมีความระมัดระวังเรื่องการก่อหนี้มากขึ้น โดยเฉพาะหนี้บัตรเครดิต

ตลอดจน “มาตรการดูแลสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อ ส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ” ที่จะเริ่มมีการบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ก.ย. 2560 น่าจะมีส่วนช่วยให้ครัวเรือนก่อหนี้ได้เหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้ของตนเองมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยช่วงระยะเวลาที่สำรวจเป็นช่วงก่อนที่จะมีการประกาศขึ้นราคาสินค้าหลายรายการของหน่วยงาน/องค์กร ครัวเรือนจึงไม่ได้ให้น้ำหนักกับการปรับเพิ่มราคาสินค้าหลายรายการ

ไม่ว่าจะเป็น 1.ค่าโดยสารรถไฟฟ้า BTS ที่ปรับขึ้น 1-3 บาทต่อรอบการเดินทางตั้งแต่ 1 ต.ค. 2560 เป็นต้นไป 2.ราคาก๊าซหุงต้มที่ปรับขึ้นจาก 20.49 บาท/ก.ก. มาเป็น 21.15 บาท/ก.ก. (ราคาเพิ่มขึ้น 10 บาทต่อถัง 15 ก.ก.) ตั้งแต่ 6 ก.ย. 2560

รวมไปถึง 3.ราคาก๊าซเอ็นจีวีที่จะปรับขึ้นจาก 13.19 บาท/ก.ก. มาเป็น 13.70 บาท/ก.ก. โดยจะมีผลตั้งแต่ 16 ก.ย. 2560 เป็นต้นไป ซึ่งอาจมีผลในเชิงลบต่อมุมมองของครัวเรือนต่อสถานการณ์ทางด้านราคาสินค้าในอีก 3 เดือนข้างหน้าในการสำรวจรอบเดือนถัดไป

ในขณะที่ภาวะการครองชีพของครัวเรือนในเดือนส.ค. ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า สะท้อนจากดัชนี ภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือน (KR-ECI) ที่เพิ่มขึ้นจากระดับ 45.5 ในเดือนก.ค. มาอยู่ที่ระดับ 45.7 ในเดือนส.ค. 2560 ตามลำดับ

โดยปัจจัยที่ทำให้ภาวะการดำรงชีพของครัวเรือนในปัจจุบันปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย คือ 1.ราคาอาหารสดถูกลง 2.ครัวเรือนบางส่วนมีภาระการชำระหนี้บัตรเครดิตลดลงในเดือนส.ค. 3.ครัวเรือนที่เป็นลูกจ้างมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อภาวะการมีงานทำของตนเอง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน