โควิดฉุดสูญ1.4แสนล. – จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระลอกใหม่ที่กระจายไปทุกภูมิภาคอย่างรวดเร็ว ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะผลกระทบต่อภาคการค้าและการท่องเที่ยว ซึ่งรวมถึงร้านอาหาร สถานบันเทิง สะท้อนจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใช้จ่ายและท่องเที่ยวแผ่วลงอย่างเห็นได้ชัด

ประเมินผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19 ต่อภาคการค้าและภาคการท่องเที่ยวในไตรมาสแรกปี 2564 จาก 3 ปัจจัยประกอบกัน ได้แก่ 1.ระดับความรุนแรงตามพื้นที่การระบาด 2.การพึ่งพิงภาคการค้าและภาคการท่องเที่ยว และ 3.รายได้จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจของจังหวัด (GPP)

พบว่าในภาพรวม ไทยมีสัดส่วนการพึ่งพิงภาคการค้าและการท่องเที่ยว 22% ต่อ GPP รวมทั้งประเทศ และมีการจ้างงานรวมกัน 6.9 ล้านคน คาดว่าผลกระทบจากโควิด-19 จะทำให้รายได้จากภาคการค้าและการท่องเที่ยวลดลงรวมกันกว่า 1.4 แสนล้านบาท

โดยกลุ่มพื้นที่ควบคุมสูงสุด ส่วนใหญ่จะอยู่ในภาคกลาง และภาคตะวันออก ซึ่งเป็นฐานการผลิต แหล่งการกระจายสินค้า และขายสินค้าที่สำคัญของประเทศ รวมทั้งเป็นจังหวัดท่องเที่ยว

กลุ่มนี้มีสัดส่วนพึ่งพิงภาคการค้าและการท่องเที่ยว 23% การจ้างงานในพื้นที่ 4.1 ล้านคน คาดผลกระทบต่อรายได้ภาคการค้าและการท่องเที่ยวอยู่ที่ 1.28 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 91% ของรายได้ที่ถูกกระทบทั้งหมด

ขณะที่กลุ่มที่เหลือซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมและเป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูง มีสัดส่วนพึ่งพิงภาคการค้าและการท่องเที่ยว 20% มีการจ้างงานในพื้นที่ 2.8 ล้านคน ผลกระทบต่อรายได้ภาคการค้าและการท่องเที่ยวคาดรวมกันกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท

จังหวัดที่ได้รับผลกระทบต่อภาคการค้าและการท่องเที่ยวสูง ได้แก่ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจ มีรายได้จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจ (GPP) สูงสุดของประเทศ และมีสัดส่วนการพึ่งพิงภาคธุรกิจการค้าและการท่องเที่ยวมากถึง 33% มีการจ้างงาน 2.1 ล้านคน คาดรายได้ภาคการค้าและการท่องเที่ยวจะลดลง 81,424 ล้านบาท

รองมาเป็นชลบุรี มีรายได้ GPP สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศ และมีสัดส่วนการพึ่งพิงภาคการค้าและการท่องเที่ยว 19% มีการจ้างงาน 2.7 แสนคน ทำให้ผลกระทบต่อรายได้ อยู่ที่ 15,463 ล้านบาท

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน