คอลัมน์ วงล้อเศรษฐกิจ

เอสเอ็มอีอ่วม – การระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ตั้งแต่ปลายเดือนธ..2563 สะเทือนไปถึงภาคธุรกิจที่เปราะบาง คาดว่าผล กระทบในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ จะทำให้รายได้ของธุรกิจ SMEs ภาคการค้าบริการและท่องเที่ยวทั่วประเทศรวมลดลงกว่า 2.7 หมื่นล้านบาท โดยจะมีผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบถึง 1.3 ล้านราย มีการจ้างงานรวมกันอยู่กว่า 6.1 ล้านคน

เมื่อแยกพิจารณาตามพื้นที่มาตรการควบคุมการระบาด พบว่ากลุ่มพื้นที่ควบคุมสูงสุด รายได้จะลดลงประมาณ 2.20 หมื่นล้านบาท มี SMEs ที่ได้รับผลกระทบราว 5.7 แสนราย มีการจ้างงานกว่า 3.4 ล้านคน ในขณะที่กลุ่มพื้นที่ควบคุมและเฝ้าระวังสูงจะลดลง 2.7 และ 2.2 พันล้านบาท และมีธุรกิจที่ได้รับผลกระทบกว่า 2 แสนราย และ 5.7 แสนราย ตามลำดับ

จากโครงสร้างธุรกิจ พบข้อสังเกตว่าในพื้นที่ควบคุมสูงสุด กลุ่ม SMEs นิติบุคคลที่อยู่ในภาคการค้าบริการและท่องเที่ยว มีบทบาทสำคัญในการจ้างงานถึง 1.8 ล้านคน หรือคิดเป็น 55% ของการจ้างงาน SMEs ในพื้นที่

ภาพรวมธุรกิจ SMEs ในภาคการค้าบริการและท่องเที่ยวที่ถูกกระทบจากการระบาดในไตรมาสแรกของปี ประเมินว่าธุรกิจที่จะถูกกระทบหนักสุด คือ ธุรกิจร้านขายปลีกเสื้อผ้า รายได้ลดลงกว่า 5 พันล้านบาท รองลงมา ร้านค้าเบ็ดเตล็ด รายได้ลดลง 4.7 พันล้านบาท ธุรกิจโรงแรม/ที่พัก และธุรกิจร้านอาหาร รายได้ลดลง 3.8 และ 2.7 พันล้านบาท ตามลำดับ

เมื่อเจาะลึกลงไปในธุรกิจ SMEs ที่เป็นนิติบุคคล พบว่าร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ดทั่วไป มีจำนวนผู้ประกอบการที่ได้รับผล กระทบมากที่สุดถึง 4.6 หมื่นราย มีการจ้างงาน 3.3 แสนคน รองลงมาเป็นร้านขายปลีกเสื้อผ้ามีธุรกิจอยู่ 1.1 หมื่นรายจ้างงานอยู่ที่ 6.4 หมื่นคน ตามด้วยกลุ่มร้านอาหารและโรงแรมที่พัก มีจำนวนธุรกิจ 1 หมื่นราย และ 7 พันรายตามลำดับมีการจ้างงานรวมกันกว่า 2.9 แสนคน

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในตอนนี้ภาครัฐจะได้ออกมาตรการช่วยเหลือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว โดยการกระตุ้นการจับจ่ายผ่านโครงการเราชนะและโครงการคนละครึ่งซึ่งเป็นการช่วยเหลือ Micro SMEs ในส่วนที่เป็นร้านค้าย่อย และกลุ่มคนทำงานที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม

แต่ยังไม่ได้ครอบคลุมไปถึงกลุ่ม SMEs ที่เป็นนิติบุคคลและอยู่ในระบบภาษี ซึ่งมีจำนวนอยู่ 1.1 แสนราย และจ้างงานกว่า 2.5 ล้านคน

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน