ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด

คาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทย น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.50% ต่อเนื่อง ในการประชุมรอบสุดท้ายของปี 2560 วันที่ 20 ธ.ค. 2560

ทั้งนี้ กนง. คงรอติดตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศให้มีความชัดเจนมากขึ้น ก่อนที่จะปรับเปลี่ยนการดำเนินนโยบายการเงิน โดยแม้ว่าภาพรวมของการฟื้นตัว ของเศรษฐกิจไทยมีพัฒนาการที่ปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ

แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปี 2560 มาจากแรงสนับสนุนจากปัจจัยนอกประเทศเป็นหลัก ในขณะที่เครื่องชี้เศรษฐกิจในประเทศยังคงฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่นัก โดยการลงทุนภาคเอกชนเพิ่งอยู่ในระยะแรกเริ่มของการฟื้นตัว ในขณะที่การบริโภคภาคเอกชนยังถูกกดดันด้วยราคาสินค้าเกษตร ท่ามกลางหนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งมองไปข้างหน้าภาพการใช้จ่ายในประเทศน่าจะปรับดีขึ้นตามมาตรการของภาครัฐ

ดังนั้น การคงนโยบายผ่อนคลายต่อเนื่องจะเป็นปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปมีภาพการฟื้นตัวที่ขยายออกไปเป็นวงกว้างและมีความสมดุลระหว่างปัจจัยในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น

ผลจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ ไม่น่าจะส่งผลต่อเงินทุนไหลออก รวมทั้งผลต่อสภาพคล่องในตลาดการเงินไทย ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐ (เฟด) รอบล่าสุดในเดือน ธ.ค.2560 เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์

รวมทั้งยังคงส่งสัญญาณในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 3 ครั้งในปี 2561 เช่นเดิม ซึ่งผลการประชุมเฟดดังกล่าว คงไม่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อกระแสเงินทุนอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากตลาดได้รับรู้ข่าวสารไปมากแล้ว

อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินสหรัฐ ในทิศทางขาขึ้น คงจะส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยจำกัดผ่านต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้นในบางภาคส่วน โดยเฉพาะอัตราผลตอบแทนในตลาดพันธบัตร ขณะที่ผลกระทบต่อต้นทุนการเงินโดยรวมของไทยอาจจะมีไม่มาก เนื่องจากสภาพคล่องในระบบการเงินไทยยังคงอยู่ในระดับสูง

มองไปข้างหน้าดอกเบี้ยนโยบายของไทยยังคงน่าจะอยู่ที่ระดับ 1.50% ไปอีกช่วงหนึ่ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน