ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ของโลก ดันราคาข้าวสาลีพุ่งสูงสุดในรอบหลายปี โดยความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ได้เริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายเดือนก.พ.2565 และมีแนวโน้มอาจจะยืดเยื้อออกไปอีก

ได้ส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานและราคาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรโลกให้ปรับตัวพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะข้าวสาลีที่มีอัตราการขยายตัวของราคาพุ่งสูงอย่างมากสอดคล้องไปตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่อยู่ในระดับสูง

อีกทั้งบทบาทของรัสเซียและยูเครนที่เป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ของโลก ซึ่งรวมครองสัดส่วนการส่งออกข้าวสาลีราว 28.5% ของปริมาณการส่งออกข้าวสาลีโลก จึงมีอิทธิพลต่อการปรับตัวของราคาข้าวสาลีในตลาดโลกอย่างมีนัยสำคัญ

ผลกระทบของราคาข้าวสาลีโลกที่พุ่งสูงขึ้นจะส่งผลต่อไทยในแง่ต้นทุนวัตถุดิบของอุตสาหกรรมปลายน้ำที่ใช้ข้าวสาลีเป็นส่วนประกอบอย่างอาหารคน (อาหารแปรรูป/อาหารกึ่งสำเร็จรูป/อาหารสำเร็จรูป) และอาหารสัตว์ ให้มีราคาปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการต้องเผชิญปัญหาอุปทานขาดแคลน และการแย่งซื้อข้าวสาลีจากแหล่งอื่นยิ่งดันราคาให้สูงขึ้น

ดังนั้น จากราคาข้าวสาลีที่สูงขึ้นนับเป็นความเสี่ยงของ ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมปลายน้ำที่ต้องเผชิญในปี 2565 ทั้งในแง่ของความเสี่ยงด้านการจัดหาอุปทาน ต้นทุนราคาวัตถุดิบและต้นทุนโลจิสติกส์ที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงราคาอาหารที่ผู้บริโภคต้องจ่ายในราคาที่สูงขึ้น ซ้ำเติมภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง

คาดว่าในช่วงระยะเวลาราว 6 เดือนจากนี้ (มี.ค.-ก.ย.) ราคาข้าวสาลีนำเข้าน่าจะยืนในระดับสูง ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมปลายน้ำอย่างอาหารคนและอาหารสัตว์ให้มีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น หรืออาจต้องเผชิญปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบเพื่อป้อนเข้าสู่สายการผลิต จะยิ่งเป็นการผนวกซ้ำเติมกับปัญหาต้นทุนค่าขนส่งให้สูงขึ้นจากช่วงก่อนหน้าที่ได้มีการปรับขึ้นค่าระวางเรือไปแล้ว 2-3 เท่า

ท้ายที่สุด ผลของความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ดันราคาข้าวสาลีให้พุ่งขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังราคาอาหารปลายทางที่ผู้บริโภคต้องจ่ายให้สูงขึ้นด้วย เช่น เนื้อสัตว์ ตามราคาอาหารสัตว์ที่สูงขึ้น หรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป/ขนมปัง ตามราคาข้าวสาลีและราคาธัญพืชทดแทนที่สูงขึ้น เป็นต้น
จะยิ่งเป็นการซ้ำเติมผู้บริโภคในภาวะที่เงินเฟ้อก็อยู่ในระดับสูงและกำลังซื้อภาคครัวเรือนที่เปราะบางอยู่แล้ว

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน