วงล้อเศรษฐกิจ

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (อีไอซี) ธนาคารไทยพาณิชย์

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนม.ค. อยู่ที่ 0.68%YOY ชะลอลงจาก 0.78%YOY ในเดือนธ.ค. ขณะที่อัตราเงินเฟ้อ พื้นฐานก็ชะลอลงเช่นกันอยู่ที่ 0.58%YOY จาก 0.62%YOY ในเดือนก่อน

เงินเฟ้อทั่วไปยังคงได้รับแรงผลักดันจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นแตะระดับเฉลี่ย 69 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (เบรนต์) ในเดือนม.ค. ซึ่งสูงขึ้น 25.7%YOY

นอกจากนี้ ดัชนีราคาอาหารสดยังคงหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 ที่ -0.94%YOY โดยเฉพาะราคาเนื้อสัตว์ รวมถึงไข่และผลิตภัณฑ์นม ขณะที่ราคาผักและผลไม้ขยายตัวเล็กน้อยเพียง 0.45%YOY

เงินเฟ้อพื้นฐานยังคงทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ตามราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ ที่ไม่เพิ่มขึ้นมากนักและมีบางหมวดที่หดตัวลง

คาดเงินเฟ้อทั่วไปปี 2561 จะทยอยฟื้นตัวขึ้นไปอยู่ที่ 1.1%YOY โดยปัจจัยหลักที่จะส่งผลให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น มาจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่มีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงกว่าปีก่อน จากการที่กลุ่ม OPEC และ Non-OPEC บรรลุ ข้อตกลงขยายระยะเวลาการลดปริมาณการผลิตน้ำมันออกไปอีก 9 เดือนจนถึงเดือนธ.ค. 2561 รวมทั้งปัญหาทางการเมืองในประเทศตะวันออกกลาง ประกอบกับการขึ้นภาษีสรรพสามิตยังคงมีผลต่อเงินเฟ้อต่อเนื่องไปจนถึงช่วงครึ่งแรกของปี

อย่างไรก็ตาม ราคาอาหารสดโดยเฉพาะราคาผักและผลไม้ยังมีแรงกดดันจากผลผลิตทางการเกษตรที่อาจมีปริมาณออกสู่ตลาดจำนวนมาก ตามแนวโน้มสภาพอากาศและปริมาณน้ำที่เอื้ออำนวยต่อการผลิต รวมทั้งเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นจะทำให้สินค้านำเข้ามีราคาถูกลงซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่กดดันเงินเฟ้อ ในปีนี้

มองว่าเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำที่ 0.6% ในปี 2561 โดยราคาสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปอาจปรับขึ้นได้ยาก เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคยังอ่อนแอโดยเฉพาะในกลุ่มของผู้มีรายได้ปานกลาง-น้อย

ทั้งนี้ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่ 5-22 บาทต่อวัน ซึ่งส่งผลให้ค่าแรงขั้นต่ำเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ 315.97 บาทต่อวัน อาจไม่ได้ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อมากนักถ้าการจ้างงานยังคงซบเซา

อย่างไรก็ดี ต้องจับตาผู้ประกอบการบางส่วนที่ต้องแบกรับต้นทุนแรงงานเพิ่มขึ้นซึ่งอาจมีผลให้ต้องปรับราคาสินค้า บางชนิดขึ้นตามไปได้ในระยะต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน