เมืองไทย 25 น.

ทวี มีเงิน

เป็นที่รู้กันว่าประเทศไทยขณะนี้กำลังเริ่มเข้าสู่สังคมวัยชรา หมายความว่า คนหนุ่มคนสาวที่อยู่ในวัยทำงานมีน้อยกว่า คนสูงอายุ คาดกันว่าสังคมไทยในอีก 10 ปีข้างหน้าจะเป็นสังคมวัยชราอย่างเต็มรูปแบบจึงน่าห่วงอย่างยิ่ง

ที่สำคัญไม่รู้ว่าศักยภาพ คนหนุ่มคนสาวของเรามีมากพอ ที่จะโอบอุ้มสังคมไทยในยุคสังคมคนชราได้หรือไม่

ยิ่งน่าห่วงเมื่อศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) รายงานว่า จากฐานข้อมูลแบงก์และนอนแบงก์ พบว่า “คนกลุ่มเจนวาย” ซึ่งเป็นกลุ่มที่อายุราวๆ 19-36 ปี (เกิดปี 23-40) เป็น กลุ่มที่มีการขอสินเชื่อรายใหม่เพิ่มขึ้นทุกประเภท ทั้งบ้าน รถยนต์ บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล

นั่นแปลว่า กลุ่มคนเจนวายมีการขอสินเชื่อใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ทุกประเภท

นอกจากนี้ยังพบว่าหนี้เสียสินเชื่อบ้านจะเป็นคนกลุ่มเจนเอ็กซ์ อายุราวๆ 37-51 ปี (เกิดปี 08-22) มากที่สุด เพราะคนวัยนี้มีภาระ หลายทาง ทั้งหนี้บ้าน หนี้รถ หนี้บัตรเครดิต

คนในวัยเจนเอ็กซ์ และเจนวาย จึงเป็นกลุ่มที่น่าจับตาเรื่องหนี้เสียเกือบทุกประเภท โดยกลุ่มเจนวายมีหนี้เสียบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันตัวเลขของสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า ในรอบ 6 เดือน มีเด็กจบใหม่อายุ 20 ปีถึง 24 ปี เข้าสู่ตลาดแรงงานน้อยลง สาเหตุที่ทำให้เด็กจบใหม่เลือกไม่เข้ามาทำงาน ส่วนหนึ่งหันไปลงทุนในตลาดหุ้นเพราะต้องการได้เงินมาใช้เร็วๆ และไม่เหนื่อย บางส่วนอยู่ในครอบครัวที่มีฐานะดี ไม่จำเป็นต้องรีบเข้ามาทำงาน รวมถึงบางส่วนเรียนจบแต่สมัครหางาน ทำไม่ได้

อีกทั้งมีการกระตุ้นให้เร่งการใช้จ่ายจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทำให้คนรุ่นใหม่ทั้งเจนเอ็กซ์และเจนวายที่อยู่ในวัยทำงาน กลายเป็นกลุ่มสังคมนิยมความฟุ่มเฟือย ช็อปง่าย จ่าย แหลก แดกด่วน ก่อหนี้สูงจนเป็นปัญหาหนี้ครัวเรือนตามมา

ส่วนคนที่จบใหม่ๆ ก็หยิบโหย่ง มีค่านิยมอยากรวยเร็ว อยากรวยทางลัด จึงมุ่งหน้าเข้าสู่ตลาดหุ้นแทนการเข้าทำงานในภาคการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมที่ให้ผลผลิตจริงๆ จึงนับเป็นความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง ทั้งแรงงานและมันสมอง ประเทศจึงไม่มีผลผลิตใหม่ๆ นวัตกรรมใหม่ๆ แข่งขันในตลาดโลก

กลับกันคนรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดหุ้นมากๆ ย่อมมีความเสี่ยงจากตลาดที่ผันผวนเร็ว หากช็อกขึ้นมาหุ้นตกแรง ก็จะกลายเป็นปัญหาเป็นภาระของรัฐบาลได้

เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ ที่รัฐบาลต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน