อดอาหารประท้วง (ตอนแรก)

น้าชาติ โลกนี้เริ่มมีการอดอาหารประท้วงตั้งแต่ เมื่อไหร่ มีหลักการไหม #เอาใจช่วยครับ

ดังกมล

ตอบ ดังกมล

คำตอบนำมาจากบทความของ ศ.ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ นักวิชาการรัฐศาสตร์ เผยแพร่ในเว็บไซต์ waymagazine.org สรุปความดังนี้

มหาตมะคานธี ผู้เป็นรัฐบุรุษนักต่อสู้ด้วยสันติวิธี กล่าวว่า การอดอาหารประท้วงจนตัวตายนั้นเป็นส่วนสําคัญยิ่งของ สัตยาเคราะห์(คือการต่อสู้ด้วยพลังแห่งสัจจะในแนวทางอหิงสาของคานธี) การอดอาหารเช่นนี้เป็นอาวุธทางสันติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและทรงประสิทธิภาพที่สุด ภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง (เพราะ) ผู้ปฏิบัติอาจยอมทนทุกข์ทรมานได้อย่างไร้ขอบเขต ทั้งนี้โดยไม่ก่อให้เกิดเภทภัยทางวัตถุและทางกายต่อผู้กระทําผิด (ที่เรากําลังต่อสู้ด้วย) แต่อย่างใด

คานธีเห็นว่าไม่ใช่ใครก็ได้จะมีคุณสมบัติในการถือศีลอดอาหารประท้วง จึงเสนอเงื่อนไขหลายประการ ดังนี้

ประการแรก คนที่กระทําผิดต้องมีความรักต่อผู้อดอาหารประท้วง และผู้อดต้องรักฝ่ายที่ตนจะประท้วงด้วย หากผู้กระทําผิดไม่ทราบเรื่องนี้หรือมีทรรศนะไม่แยแสต่อผู้อดแล้ว การประท้วงก็ไม่มีผลใดๆ, ประการที่สอง ผู้อดอาหารประท้วงจะต้องอยู่ในฝ่ายที่ถูกกระทํา และถูกกระทบกระเทือนจากความอยุติธรรมด้วย

ประการที่สาม ผู้อดอาหารประท้วงต้องปลอดจากการกระทําผิดชนิดที่ตนตั้งใจประท้วงอยู่,

ประการที่สี่ ผู้อดอาหารประท้วงต้องเป็นบุคคลบริสุทธิ์สะอาดและฝ่ายที่กระทําผิดต้องเห็นเช่นนั้นด้วย, ประการที่ห้า! ผู้อดอาหารประท้วงต้องไม่กระทําไปเพื่อประโยชน์ส่วนตนใดๆ

ประการที่หก ผู้อดอาหารประท้วงต้องปราศจากความโกรธในตน มีเฉพาะเมตตาธรรมในการประท้วง

และประการที่เจ็ด การกระทําผิดที่เกิดขึ้นต้องเป็นกรณีที่ทุกฝ่ายยอมรับว่าผิด เป็นอันตรายในทางจิตวิญญาณ และผู้กระทําผิด ต้องตระหนักในความผิดของตนด้วย

ประวัติศาสตร์ของการถือศีลอดอาหารประท้วงย้อนกลับไปถึงสมัยก่อนคริสตกาล ในพระคัมภีร์ไบเบิลในส่วนพันธสัญญาเก่า (Old Testament) กล่าวถึงเรื่องราวการถือศีลอดอาหารประท้วงไว้ในตอนที่ว่าด้วยเรื่องของศาสดา “โยนาห์” (JONAH) (หรือที่ชาวมุสลิมเรียกกันในภาษาอาหรับว่า ศาสดายูนุส) ผู้ได้รับบัญชาจากพระผู้สร้างให้ไปเตือนชาวเมืองนิเนเวห์ว่า พระเป็นเจ้ากําลังจะทําลายเมืองนั้น เพราะชาวเมืองได้สร้างบาปหยาบช้าไว้มากเหลือประมาณ

เมื่อศาสดาโยนาห์ไปถึงเมืองและเริ่มสั่งสอนธรรมะ ชาวเมืองก็พากันเสียใจในความผิดบาปของตน ศาสดาโยนาห์ประกาศว่าภายใน 40 วันพระเป็นเจ้าจะทําลายเมืองนี้เสีย

เมื่อชาวเมืองเชื่อคําของท่านศาสดา และทุกคนในเมืองไม่เว้นแม้พระราชาได้ประกาศถือศีลอดอาหาร หันมาสวมอาภรณ์ที่ทําจากผ้าเนื้อหยาบ พระราชาเองก็ลงจากบัลลังก์และนั่งอยู่บนกองขี้เถ้า

พระองค์ประกาศไปทั่วแว่นแคว้นว่า ห้ามทุกคนรวมทั้งสัตว์ต่างๆ กินและดื่มใดๆ จะต้องสวมเสื้อทอจากกระสอบและคร่ำครวญต่อพระเป็นเจ้า อีกทั้งให้ทุกคนละเลิกแนวทางชั่วร้ายหยุดความรุนแรง และการลักขโมยให้สิ้น โดยหวังความเมตตาของพระเป็นเจ้า

ที่สุดพระเป็นเจ้าก็ทรงเมตตาและเมืองนิเนเวห์ก็รอดจากภัยพิบัติ

เรื่องของโยนาห์นี้ แม้มหาตมะคานธีเองก็เคยอ้างถึงเมื่อตอบจดหมายเพื่อนชาวอังกฤษของตนคือ ซี.เอฟ.แอนดรูส์ (C.F.Andrews) ใน Harjan วันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1933

ฉบับพรุ่งนี้ (11 พ.ค.) อ่านประวัติศาสตร์การอดอาหารประท้วงกันต่อ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน