จิตร ภูมิศักดิ์ กับกรณีโยนบก
จิตร ภูมิศักดิ์ถูกโยนบก วันนั้นเกิดอะไรขึ้น
มันม่วง
ตอบ มันม่วง
คำตอบนำมาจากบทความ “จิตร ภูมิศักดิ์ กับกรณีโยนบก 28 ตุลาคม 2496” เผยแพร่บนเว็บไซต์ www.silpa-mag.com ดังนี้
ท่ามกลางความบ้าคลั่งของระบบ SOTUS (ธรรมนิยม-สามัคคี-น้ำใจ-ระเบียบ-อาวุโส/คำแปลในสมัยนั้น) ของนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในทศวรรษ 2490 โดยมี “มหาวิทยาลัย ๒๓ ตุลาคม ๒๔๙๖” ซึ่งเป็นหนังสือประจำปีที่ได้มีการจัดทำขึ้นทุกปี เป็นส่วนหนึ่งในการถ่ายทอดความคิดดังกล่าว
จิตร ภูมิศักดิ์ นิสิตชั้นปีที่ 3 คณะอักษรศาสตร์ ในฐานะ สาราณียากร ได้ปฏิวัติการจัดทำหนังสือมหาวิทยาลัย ๒๓ ตุลาคม ๒๔๙๖ ซึ่งเป็นหนังสือประจำปีขึ้นเสียใหม่ ทั้งในรูปแบบ และเนื้อหา
รูปแบบ จากเดิมที่มีแต่พระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นหน้าปก จิตรได้เปลี่ยนรูปแบบ โดยให้เหตุผลว่าหนังสือเล่มนี้ทำมา 20-30 ปีแล้ว ก็มีรูปซ้ำซากตลอดมา
เนื้อหา จากเดิมที่เป็นเวทีในการสรรเสริญพระเกียรติคุณ ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และปลูกฝังระบบ SOTUS จิตรได้ปรับเปลี่ยนให้มีบทความ “สรรเสริญ ร.5 เพียง เรื่องเดียวเท่านั้น” และจิตรได้เขียนบทความ “พุทธปรัชญาแก้สภาพสังคมตรงกิเลส วัตถุนิยมไดอะเลคติค แก้สภาพสังคมที่ตัวสังคมเอง และแก้ได้ด้วยการปฏิวัติ มิใช่ปฏิรูปตามแบบสิทธารถ ปรัชญาวัตถุนิยมไดอะเลคติค กับปรัชญาของสิทธารถผิดกันอย่างฉกรรจ์ตรงนี้” (หรือรู้จักกันอีกชื่อคือ “ผีตองเหลือง”) ซึ่งเป็นการเขียนวิจารณ์ความเสื่อมทรามของพระภิกษุสงฆ์ที่หากินภายใต้ร่มกาสาวพัสตร์ ภายใต้กรอบลัทธิมาร์กซ์ ซึ่งจิตรกำลังศึกษาอยู่ในขณะนั้น ในนามปากกาว่า นาครทาส
และบทกวีที่ชื่อ “เธอคือหญิงรับจ้างแท้…ใช่แม่คน” ในนามปากกา ศูลภูวดล ที่วิจารณ์ผู้หญิงที่รักสนุกแต่พอท้องขึ้นมาแล้วปัดความรับผิดชอบ พร้อมกับบทความอื่นอีก 4-5 เรื่องที่ ถูกตีความว่า “ไม่ควรลงมาตีพิมพ์ในหนังสือที่มีเกียรติ”
แม้ “มหาวิทยาลัย ๒๓ ตุลาคม ๒๔๙๖” ฉบับที่จิตร ภูมิศักดิ์เป็นสาราณียกร ไม่เคยได้รับการตีพิมพ์แต่หนังสือดังกล่าวยัง ถูก “เข็น” ออกมา คณะผู้จัดทำชุดใหม่ได้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าโดยการเจาะกระดาษเป็นรูปวงกลมตรงมุมขวาบน พร้อม สอดภาพพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 เมื่อทาบปกลงมาก็จะปรากฏพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ออกมาพอดี รวมทั้งเปลี่ยนเนื้อหาในเล่มเป็นจำนวนมาก
แต่สำหรับ จิตร แล้วมันไม่จบเพียงเท่านั้น วันที่ 28 ตุลาคม 2496 ขณะที่จิตรกำลังชี้แจงกับนิสิตกว่า 3,000 คน ในหอประชุมอยู่นั้น ได้มีนิสิตที่โกรธแค้น นำโดย นายสีหเดช บุนนาค ขึ้นไปจับจิตรขณะที่อยู่บนเวทีที่สูงจากพื้น 5 ฟุต และโยนลงมา เบื้องล่างเพื่อเป็นการลงโทษตาม “ธรรมเนียม” หรือเรียกกัน ต่อมาว่ากรณีโยนบก
แม้จะเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนเพียงใด แต่ในบรรยากาศอำนาจนิยมในขณะนั้น ขจร สุขพานิช สาราณียกรหนังสือชุมนุม จุฬาฯ กลับมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่น่าสนใจอะไร เพราะโยนบกก็เท่ากับเป็นการเพิ่มโทษเท่านั้นเอง เมื่อเทียบกับ การโยนน้ำ
และแทนที่คนผิดจะถูกลงโทษ สภามหาวิทยาลัยได้สั่งให้พักการเรียนจิตรเป็นเวลา 12 เดือน ข้อหามีความโน้มเอียงไปทางซ้าย
“มหาวิทยาลัย ๒๓ ตุลาคม ๒๔๙๖” ฉบับที่จิตรเป็นสาราณียกรจึงเป็นหนังสือนักศึกษาที่ “ดังที่สุด” เท่าที่เคยมีมา แต่ก็เป็นหนังสือที่ไม่เคยมีใครได้อ่านต้นฉบับจริง