สดจากสนามข่าว
ณเดช โรจนประดิษฐ์ – อดิศร จิตตเสรี / เรื่อง-ภาพ
พลันที่ตำรวจ สน.บางนา เผยแพร่ภาพคนร้ายก่อเหตุข่มขืนหญิงสาวและจี้ชิงทองคำภายในห้องน้ำแบบหยอด เหรียญ ที่ตั้งอยู่ชั้นล่างตึกแถวเลขที่ 3206 ซอยสรรพาวุธ 1 ข้าง ธ.กสิกรไทย แยกบางนา ถนนสุขุมวิท แขวง-เขตบางนา กทม. เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมตั้งเงินรางวัลนำจับจำนวน 5,000 บาท สร้างความไม่พอใจให้ผู้คนในสังคมเป็นอย่างมาก
ย้อน ไปเมื่อช่วงเวลาประมาณ 5 โมงเย็นของวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา น.ศ.สาววัย 20 ปีเดินมาเข้าห้องน้ำ โดยไม่ทันเฉลียวใจว่ามีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองตามอย่างไม่กะพริบตา มันรีบเดินตามเข้าไปก่อนตัวเหยื่อสาวจะทันตั้งตัว จากนั้นใช้กำลังบังคับเหยื่อสาวเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนลงมือขืนใจและชิงกระเป๋าถือและแหวนทองหนัก 1 สลึงของเหยื่อสาวไปด้วย
สาเหตุที่มันสามารถลงมือได้อย่างง่ายดาย เพราะห้องน้ำดังกล่าวเป็นห้องน้ำที่เจ้าของตึกแถวดัดแปลงและเก็บเงินค่าใช้ บริการ โดยไม่ได้แบ่งแยกชาย-หญิง และที่สำคัญไม่มีคนคอยดูแล ทำให้มันสามารถเข้าออกได้โดยไม่มีพิรุธ
หลังเกิดเหตุน.ศ.สาวให้การกับ ตร.สน.บางนาด้วยเสียงสั่นว่า มาเข้าห้องน้ำโดยมีเพื่อนชายคนสนิทรออยู่ข้างนอก ระหว่างนั้นคนร้ายเข้าไปซ่อนตัวในห้องน้ำอยู่ก่อนแล้ว กระทั่งเพื่อนชายเห็นว่าเข้าไปนานผิดปกติ จึงตะโกนถาม แต่ขณะนั้นถูกคนร้ายบีบคอและข่มขู่ ด้วยความกลัวจะได้รับอันตราย ถึงชีวิตจึงตอบกลับไปว่าใกล้จะเสร็จแล้ว ก่อนถูกลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่
คดีนี้สร้างกระแสความไม่พอใจไปทั่ว สังคมกดดันให้ ตร.เร่งจับกุมคนร้าย มาลงโทษให้ได้โดยเร็ว พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. สั่งระดมนักสืบฝีมือดี นำโดย พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. ร่วมด้วย พ.ต.อ.อัศวยุทธ นุชพุ่ม รอง ผบก.น.5, พ.ต.อ.อุดม ธุระงาน ผกก.สน.บางนา พ.ต.ท.ภาสกร รัตนปนัดดา รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.อภิโชค ขนบดี สว.สส. พ.ต.ต.สุรพล จันทร์สมศักดิ์ สว.กก.สส.บก.น.5 และชุดสืบสวน เร่งสืบสวน
พ.ต.อ. นพศิลป์เผยว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบ จนทราบว่าคนร้ายชื่อนายเอกพล แซ่เตียว อายุ 31 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ จ.บุรีรัมย์ ก่อนจะขออนุมัติศาลจังหวัดพระโขนงออกหมายจับ เชื่อว่าน่าจะยังอยู่ในกทม. ขณะนี้กำลังเร่งหาตัวอยู่ แต่ติดอยู่ตรงที่คนร้ายเป็นคนเร่ร่อน เดินเท้า ไม่มีที่อยู่และทำงานเป็นหลักแหล่ง ไม่มีภูมิลำเนาที่ชัดเจน โดยพบว่าใช้ชีวิตแบบนี้มากว่า 10 ปีแล้ว
วันที่ 7 ก.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สน.บางนา, ชุดสืบสวนบก.น.5, ชุดสืบสวนบก.สส.บช.น., สามารถจับกุมนายเอกพลได้ขณะกำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ภายในตู้โทรศัพท์สาธารณะ หลังโรงแรมรัตนโกสินทร์ ถนนราชดำเนิน แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กทม. จากนั้นจึงนำตัวมา กก.สส.บก.น.5 เพื่อสอบปากคำ ต่อมาพล.ต.ท.ศานิตย์ และพ.ต.อ.นพศิลป์ เดินทางมาสอบปากคำ ผู้ต้องหาด้วยตนเอง ก่อนคุมตัวนายเอกพลมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุ ท่ามกลางประชาชนที่มาเฝ้าสังเกตการณ์และสาปแช่งอยู่เป็นระยะ
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่า ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป และยังขายบริการทางเพศให้กับสาวประเภทสองอีกด้วย ไม่มีที่พักอาศัยเป็นหลักแหล่ง โดยขณะเกิดเหตุได้เข้าไปทำธุระส่วนตัวภายในห้องน้ำดังกล่าว ระหว่างนั้นบังเอิญผู้เสียหายได้เดินทางเข้ามาทำธุระส่วนตัวเช่นกัน จึงฉวยโอกาสผลักประตูเข้าไปก่อเหตุ เนื่องจากเกิดอารมณ์เพียงชั่ววูบ จากนั้นก็ชิงทรัพย์เป็นแหวนทองคำ น้ำหนัก 1 สลึง ก่อนนำไปจำนำภายในร้านทองบริเวณแยกสำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ หลังจากนั้น ก็ไปหลบซ่อนตัวตามบ้านญาติ โรงแรม พื้นที่ จ.สมุทรปราการ หมอชิต และบางซื่อ กระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวต่อว่า การจับกุมตัวผู้ต้องหาครั้งนี้เจ้าหน้าที่มีหลักฐานชัดเจน ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดและพยานทางนิติ วิทยาศาสตร์ หลังจากนี้จะนำดีเอ็นเอของผู้ต้องหาไปตรวจสอบ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ร่วมกันกระจายกำลังปูพรมซึ่งใช้เวลากว่า 2 อาทิตย์จนไปสู่การจับกุม เบื้องต้นก่อนหน้านี้มีกระแสว่า ผู้ต้องหาก่อเหตุแอบส่องผู้หญิงตามห้องน้ำสาธารณะ เรื่องนี้เจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ
ส่วนเรื่องอาคารสถานที่ดัดแปลงต่อเติมเป็นห้องน้ำสาธารณะในลักษณะดังกล่าว ต้องประสานไปทางสำนักงานเขตเรื่องของการเพิกถอน เพื่อดำเนินการเรื่องการดำเนินคดีกับเจ้าของอาคาร พร้อมทั้งทำหนังสือถึงสถานประกอบการดังกล่าวเพื่อย้ำเตือนถึงความปลอดภัย หลีกเลี่ยงการเกิดเหตุลักษณะดังกล่าว
ขณะเดียวกัน รรท.ผบช.น.ก็ผุดไอเดีย “สุขา บช.น. เพื่อประชาชน” ให้พี่น้องประชาชน เข้ามาใช้บริการภายในห้องน้ำของตู้ป้อมตำรวจจราจร รวมทั้งสิ้น 250 แห่ง ตามแยกต่างๆ และสถานที่ทำงานของตำรวจ ทุกแห่ง
ป้องกันกันอย่างเต็มที่ ไม่ให้คนร้ายมีโอกาสก่อเหตุ ย่อมดีกว่าเกิดเหตุแล้วมาไล่จับเป็นแน่
