สดจากสนามข่าว

อนงค์ วงศ์ช่วย – เรื่อง/ภาพ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 ส.ค. พล.ต.ต. นพดล เผือกโสมณ รอง ผบช.ภ.9พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ นิตยวิมล รอง ผกก.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุลผกก.สส.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ.สกนธ์ อนนท์รัตน์ ผกก.สภ.จะนะ ร่วมกันนำตัว นายทรงพล มาวลา อายุ 19 ปี อยู่ที่ 50/2 ม.5 ต.ป่าชิง อ.จะนะ จ.สงขลา และนายออง ติน อายุ 51 ปี ชาวพม่า มาแถลงข่าวปิดคดีฆาตกรรมอำพราง นางยินดี อ่อนพรหม เศรษฐินีวัย 51 ปี ชาว อ.จะนะ

ทั้งคู่ถูกนำตัวมาพร้อมของกลาง 10 รายการ อาทิ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง เสื้อผ้าที่สวมใส่วันก่อเหตุ เชือกไนลอนที่ใช้รัดคอ หน้ากากอนามัยเปื้อนเลือด ถุงมือแบบผ้า เงินสดจำนวน 80,000 บาท เป็นค่าจ้างวาน เป็นต้น โดยผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ย้อนกลับไปเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 25 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จะนะ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบศพหญิงวัยกลางคน เสียชีวิตอยู่ในรถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ผต. 55667 สงขลา บริเวณถนนสายบ้านท่าคลอง หมู่ 4 ต.ป่าชิง อ.จะนะ จ.สงขลา

พ.ต.อ.สกนธ์ อนนท์รัตน์ ผกก.สภ.จะนะ นำกำลังรุดไปตรวจสอบทันทีที่ได้รับแจ้ง ในที่เกิดเหตุพบรถกระบะคันดังกล่าวจอดอยู่ริมถนน ประตูทั้ง 2 ด้านล็อกเอาไว้ เครื่องยนต์ยังติดอยู่ แอร์ในรถเปิดเย็นฉ่ำ ที่เบาะคนขับพบศพหญิงดังกล่าวในสภาพนั่งอยู่หลังพวงมาลัย โดยภายในรถไม่พบร่องรอยการรื้อค้นหรือต่อสู้

ต่อมามีญาติเดินทางมายืนยันว่าผู้เสียชีวิตชื่อนางยินดี อ่อนพรหม อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/2 ม.5 ต.ป่าชิง อ.จะนะ จ.สงขลา โดยนางยินดีมีอาชีพรับขายฝากที่ดินจนมีฐานะดี ติดอันดับเศรษฐินี ในพื้นที่อำเภอจะนะ

 

2

 

จากการตรวจสอบประวัติพบว่านางยินดีมีสามีวัยรุ่นที่เพิ่งอยู่กินด้วยกันได้ 2 ปีเศษ ชื่อนายทรงพล มาวลา อายุ 19 ปี โดยก่อนพบศพทั้งคู่ขับรถออกไปด้วยกัน ก่อนที่นายทรงพลจะกลับมาบ้านคนเดียว และติดต่อหาลูกของผู้ตาย แจ้งว่าแม่ยังไม่กลับบ้าน ก่อนจะระดมญาติช่วยกันค้นหา จนกระทั่งมาพบว่าเสียชีวิตแล้ว

ตำรวจนักสืบทุกคนรู้ดีว่าไม่มีอาชญากรรมครั้งใดจะสมบูรณ์แบบ อย่างไรเสียก็ต้องทิ้งร่องรอยไว้ให้ติดตามเสมอ แค่ต้องมองให้ถูกจุดเท่านั้น คดีนี้ก็ไม่ต่างกัน ตำรวจพบข้อพิรุธจากลักษณะการนั่งขับรถของผู้ตาย ที่ถอดรองเท้าเอาไว้ฝั่งด้านคนนั่ง ผิดวิสัยที่หากคนขับไม่สวมรองเท้าขับรถก็มักวางไว้ด้านตนเอง

นอกจากนี้ยังมีร่อยรอยคล้ายถูกเชือกรัด ที่บริเวณรอบลำคอของผู้ตาย อีกทั้งเมื่อสอบ สวนปากคำคนใกล้ชิดทำให้ทราบว่าก่อนเกิดเหตุนางยินดีรับเงิน 1,000,000 บาท จากลูกหนี้ ที่นำมาไถ่ถอนที่ดินจากการขายฝาก ก่อนที่จะหายตัวไปเมื่อวันที่ 24 ส.ค.

เมื่อนำเหตุการณ์และช่วงเวลามาพิจารณา เจ้าหน้าที่สรุปตรงกันว่าคดีนี้เป็นการจัดฉากฆาตกรรมอำพราง โดยมี ปมเหตุมาจากเรื่องต้องการชิงทรัพย์ แน่นอนว่าผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งหนีไม่พ้นนายทรงพล สามีวัยหนุ่มนั่นเอง

ตำรวจได้นำตัวนายทรงพล สามีของผู้ตายมาสอบสวน จนในที่สุดรับสารภาพว่าเป็นผู้ร่วมมือกับนายออง ติน ซึ่งเป็นเพื่อนกัน วางแผนฆ่านางยินดี เพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ โดยการว่าจ้างนายอ่อง ติน เป็นผู้ลงมือในราคา 80,000 บาท

หลังคำสารภาพพรั่งพรูออกจากปากของนายทรงพล ตำรวจก็ส่งกำลังไปติดตามจับกุมนายอ่อง ติน ได้ที่บ้านไม่มีเลขที่ ม.2 ต.สะพานไม้แก่น อ.จะนะ จ.สงขลา พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง การเกงยีนส์ขายาว 1 ตัว เสื้อยืดคอกลมแขนสั้น สีดำ เสื้อแจ๊กเกตสีดำ 1 ตัว เชือกไนลอน 1 เส้น หน้ากากอนามัย 1 ชิ้น ถุงมือ 1 คู่ เงินสด 80,000 บาท หลักฐานอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง

 

3

 

นายอ่อง ติน ให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายทรงพลให้เป็นผู้วางแผนฆ่านางยินดี ด้วยการวางแผนขอให้นางยินดีช่วยไปรับลูกชายของนายออง ติน ที่ อ.นาทวี จ.สงขลา โดยไปด้วยกัน 3 คน นายทรงพลเป็นคนขับ นางยินดีนั่งด้านหน้าข้างซ้าย นายอ่อง ติน นั่งในแค็บข้างหลัง

เมื่อถึงที่เกิดเหตุ นายอ่อง ติน ใช้เชือกไนลอนที่เตรียมมารัดคอนางยินดีจนเสียชีวิต ก่อนที่จะช่วยกันจัดฉากให้นางยินดีนั่งอยู่ที่นั่งคนขับ และหลบหนีไป โดยนายทรงพลได้ย้อนกลับไปที่บ้าน และติดต่อหาลูกของผู้ตาย แจ้งว่าแม่ยังไม่กลับบ้าน ก่อนจะระดมญาติช่วยกันค้นหาจนมีผู้มาพบศพและแจ้งเจ้าหน้าที่

ย้อนกลับมาที่วงแถลงข่าว พ.ต.อ. ชัยวัฒน์ นิตยวิมล รอง ผกก.ภ.จว.สงขลา กล่าวว่า หลังตำรวจรับแจ้งก็ได้เข้าสืบสวนสอบสวน จนได้หลักฐานนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้ภายใน 15 ชั่วโมง สำหรับนายทรงพลจากการสืบสวนตำรวจพบว่าเป็นชาวพม่า สวมบัตรประชาชนเป็นคนไทย โดยข้อเท็จจริงนายทรงพลอายุ 35 ปี แต่สวมบัตรประชาชนอายุ 19 ปีของผู้เสียชีวิตใน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เจ้าหน้าที่กำลังรวมรวบหลักฐานแจ้งข้อหาเพิ่มเติม และสืบสวนการสวมบัตรประชาชนปลอมต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน