สายอรุณ ปินะดวง – เรื่อง/ภาพ
บึม…หลังสิ้นเสียงกัมปนาทกึกก้อง ท่ามกลางกลุ่มควันคละคลุ้งตลบอบอวลไปทั่วลานวัดพระธาตุสบแวน ม.2 ต.หย่วน อ.เชียงคำ จ.พะเยา
สิ่งที่ตามมาติดๆ ก็คือ เสียงร้องครวญครางขอความช่วยเหลือด้วยความเจ็บปวด ในช่วงกลางดึกคืนวันวิสาขบูชา วันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.เถกิง ทองอินทร์ ผกก.สภ.เชียงคำ พร้อม พ.ต.ท.สนิท วงศ์ใหญ่ รอง ผกก.สอบสวน ร.ต.อ.สิทธิโชค บัวแดง รองสว.สอบสวน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ ร.พ.เชียงคำ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ รุดไปถึงที่เกิดเหตุภายในเวลาไม่กี่อึดใจ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุท่ามกลางกลุ่มชาวบ้านจำนวนมาก ที่ยังไม่คลายความอกสั่นขวัญผวาจากเหตุระทึกที่เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ต่อหน้าต่อตา เจ้าหน้าที่ก็ต้องพบกับภาพสยดสยอง
เป็นกลุ่มผู้อยู่ในเหตุกาณ์ที่ช่วยกันประคองร่างโชกเลือดของชายหนุ่ม 2 คน คือ นายประพันธ์ พรมมา อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 226/2 ม.11 ต.ทุ่งสะโตก อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่
สภาพแขนข้างขวาใต้ข้อศอกขาดเลือดไหลแดง
ใกล้กันมี นายอภิเดช ติลา อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 60 ม.7 ต.แม่จัน อ.แม่จัน จ.เชียงราย เท้าข้างขวาใต้หัวเข่าลงมาขาด
ทั้งสองนอนจมกองเลือดร้องอย่างเจ็บปวด
เจ้าหน้าที่จึงรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนส่งรักษาต่อที่ร.พ.เชียงคำ นอกจากนี้ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย
ช่วงสายวันรุ่งขึ้น พ.ต.อ.เถกิง เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง พร้อมพ.ต.ท.สุธาฌาน สุธรรมแปง กำธร นวท.(สบ 2) กสก.ศพฐ.5 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐาน บก.ภ.จว.พะเยา ไ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง
เจ้าหน้าที่เก็บชิ้นส่วนของท่อเหล็กที่บรรจุดินปืน และบริเวณที่มีคนเจ็บเคยนอนอยู่ในจุดต่างๆ รวมถึงรายชื่อของผู้ที่เข้าแข่งขันประกวดดอกไม้ไฟหรือบอกไฟดอก
ส่วนผลการสอบสวนทราบว่า หลังเสร็จสิ้นพิธีเวียนเทียนเนื่องในวันวิสาขบูชาแล้ว ก็มีการจุดดอกไม้ไฟ หรือบอกไฟดอก ตามประเพณีทางล้านนาที่เป็นวัฒนธรรมสืบต่อกันมา
การเริ่มจุดดอกไม้ไฟในช่วงหัวค่ำ หลังจากเสร็จสิ้นพิธีเวียนเทียน มีผู้นำดอกไม้ไฟที่เข้าร่วมแข่งขันดอกไม้ไฟรวม 34 ราย โดยผู้ร่วมแข่งขันเป็นชาวจังหวัดพะเยาและจังหวัดใกล้เคียง เช่น เชียงใหม่ เชียงราย
ดอกไม้ไฟที่เข้าร่วมการแข่งขัน แต่ละรายการที่จุดแล้วได้คะแนนต่างกัน ส่วนดอกไม้ไฟที่ระเบิดคะแนนจะเป็น 0
แต่เมื่อจุดดอกไม้ไฟถึงรายการที่ 19 ก็เกิดเสียงดังคล้ายระเบิดสนั่นไปทั่วบริเวณ
ทันใดนั้น นายประพันธ์ พรมมา และ นายอภิเดช ติลา ทั้งสองคนอยู่ใกล้ดอกไม้ไฟมากที่สุด ได้รับอันตรายจากแรงระเบิดและสะเก็ดของดอกไม้ไฟเข้าที่ขาและแขน ทำให้ทรุดลงกับพื้น
ประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ต่างแตกตื่น และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงคำ และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลเชียงคำมาทันที
หลังเกิดเหตุสลดขึ้นภายในงานบุญที่สำคัญ ทำให้ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.พะเยา ให้ฝ่ายปกครองตรวจสอบและกำชับให้มีการควบคุมให้เป็นไปตามกฎหมาย
พ่อเมืองพะเยา ระบุว่า หลังเกิดเหตุมอบหมายให้ฝ่ายปกครองเร่งดำเนินการตรวจสอบเป็นการด่วนทันที พร้อมทั้งกำชับให้มีการควบคุมให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาสัมพันธ์ประชาชนได้ทราบถึงความรุนแรงและอันตรายที่เกิดขึ้น หากไม่มีระบบการป้องกันที่ดี
ส่วนพ.ต.อ.เถกิงเปิดเผยหลังตรวจที่เกิดเหตุว่า การตรวจสอบพื้นที่และเก็บชิ้นส่วนต่างๆ ภายในที่เกิดเหตุโดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน รวมทั้งกระบวนการรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อนำไปสรุปสำนวนคดี
นอกจากนี้อาจจะขอเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ปากคำกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะมอบหมายให้ ร.ต.อ.สิทธิโชคเป็นผู้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลที่สภ.เชียงคำ เพราะได้รับข้อมูลจากประชาชนในพื้นที่ 2 ด้าน ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการจัดแข่งขันดอกไม้ไฟดังกล่าว
ขณะที่น.ส.สยุมพร แดงฟู ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 บ้านธาตุสบแวน ให้ข้อมูลว่า ก่อนจะจัดงานแข่งขันประกวดพลุในวันวิสาขบูชาครั้งนี้ ทางผู้นำได้ประชุมหารือกัน จำนวน 3 ครั้ง ทุกครั้งจะมีมติให้จัดการแข่งขันโดยไม่มีการคัดค้านแต่อย่างใด
แต่หลังเกิดเหตุทางผู้นำชุมชนจะปรึกษากับประชาชนในพื้นที่ว่าจะทำอย่างไรต่อไป หากปีถัดไปให้มีการจัดขึ้นอีก ก็ต้องมีมาตรการดูแลความปลอดภัยในทุกๆ ด้านด้วย
เหตุสลดครั้งนี้จึงต้องยึดถือเป็นอุทาหรณ์ ให้ผู้ที่จะจัดงานอะไรที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายไม่ว่าทางใด ต้องระมัดระวัง ป้องกันไว้แต่เนิ่นๆ เพื่อไม่ให้ต้องเกิดเหตุสลดขึ้นกับใครอีก
