สราวุฒิ ศรีเพชรสัย – เรื่อง/ภาพ
สถานการณ์ยาเสพติดที่แพร่ระบาด ดังปรากฏเป็นข่าวบ่อยครั้ง แม้แต่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครก็ไม่เว้น รัฐบาลมี นโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เร่งรัดสืบสวนปราบปรามจับกุม หวังยุติการแพร่ระบาดของยาเสพติดในเขตกรุงเทพมหานคร
กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ภายใต้การนำของพล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. ได้สั่งการให้ทาง พล.ต.ต.ฤชากร จรเจวุฒิ รอง ผบช.น. ซึ่งรับผิดชอบดูแลงาน ยาเสพติด เป็นผู้ควบคุมการทำงานปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ล่าสุด พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง ผบก.น.3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์ รอง ผบก.น.3 สั่งการให้ พ.ต.ท.ชินวุฒิ ตั้งวงษ์เลิศ รอง ผกก.สส.สน.ลำหิน หน.ชุด ชปส.บก.น.3 สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สปพ. ภายใต้อำนวยการของ พ.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบก.สปพ. และตำรวจสน.มีนบุรี โดยพ.ต.อ.พรเทพ สูติปัญญา ผกก.สน.มีนบุรี
บุกเข้าตรวจค้นที่บริเวณบ้านเลขที่ 1/572 ซ.เคหะรามคำแหง 1 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร หลังสายรายงานว่าทั้งหมดมีพฤติกรรมมั่วสุมเสพยาภายในบ้านดังกล่าว ก่อนพบกับนายอภินันท์ หรือฮิม วันจะนาบี อายุ 31 ปี นายเจษฎากร หรือ ปู ค้ำคูณ อายุ 23 ปี น.ส.ปวิศรา หรือ อัง บุญชู อายุ 34 ปี พร้อมของกลางยาเสพติดจำนวนหนึ่ง
ตํารวจสอบสวนขยายผลตามไปยึด ของกลางเพิ่มเติมที่คอนโดฯ ลุมพินี ซ.รามคำแหง แยก 43/1 และบริเวณริมถนนรามอินทรา ตรงข้ามห้างแฟชั่นฯ จนสามารถยึดของกลางรวมทั้งหมด เป็นยาบ้าจำนวน 414,000 เม็ด ยาไอซ์ 28 กิโลกรัม ยาอี 18,000 เม็ด ยาเค (เคตามีน) 1.8 กิโลกรัม รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีบรอนซ์ ทะเบียน สร 1065 กรุงเทพมหานคร รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีน้ำเงิน ทะเบียน 1 กต 1994 กรุงเทพมหานคร
ก่อนขยายผลจับกุมนายสุไลมาน คาน อายุ 21 ปี ได้ที่บริเวณชุมชนคลองเตย ถนนอาจณรงค์ แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร พร้อมของกลางยาเคหนัก 5 กรัม และเงินสด 108,000 บาท ในกระเป๋ากางเกง
พล.ต.ต.ฤชากรเปิดเผยรายละเอียดการจับกุมว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มีนบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ชปส.บก.น.3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สายตรวจ บก.สปพ. จับกุม 3 ผู้ต้องหาที่มั่วสุมเสพยา ได้ขยายผลจนรับว่ามีการจำหน่ายยาเสพติด โดยขนส่งผ่านไปรษณีย์พื้นที่เขตหลักสี่
โดยนายอภินันท์รับว่าเป็นตัวการจำหน่ายยาเสพติดผ่านไปรษณีย์ดังกล่าว พร้อมเข้าตรวจค้นห้องพักที่คอนโดฯ ลุมพินี ซ.รามคำแหง แยก 43/1 พบของกลางยาบ้า 216,000 เม็ด ยาไอซ์ 7 กิโลกรัม ยาเคตามีน 1 ก.ก. รถยนต์ 2 คันดังกล่าว
ชุดจับกุมได้สอบสวนขยายผลไปยังกลุ่มนายสุไลมาน ที่อยู่บริเวณชุมชนคลองเตย โดยนายอภินันท์รับว่าได้สั่งซื้อยามาจากนายสุไลมาน ที่ย่านคลองเตย จากนั้นนำมาส่งขายให้ลูกค้าผ่านไปรษณีย์ ล่าสุดได้สั่งซื้อยาบ้า 192,000 เม็ด ยาไอซ์ 20 กิโลกรัม นัดมาส่งของที่ถนนรัชดาฯ-รามอินทรา ฝั่งตรงข้ามแฟชั่นไอซ์แลนด์ ตำรวจจึงตามไปตรวจยึดของกลางได้เพิ่มเติม ก่อนตามไปจับนายสุไลมานได้อีกราย
พ.ต.ท.ชินวุฒิกล่าวว่า ภายหลังจับกุมนายอภินันท์ได้ตำรวจสอบขยายผลจนรู้ว่ารับยามาจากนายสุไลมาน ลูกครึ่งไทย-ปากีสถาน เจ้าหน้าที่ซ้อนแผนได้ติดต่อล่อซื้อยาบ้า 192,000 เม็ด ยาไอซ์ 20 กิโลกรัม เพื่อนัดมาส่งของที่ถนนรัชดาฯ-รามอินทรา ฝั่งตรงข้ามแฟชั่นไอส์แลนด์ แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร พื้นที่ สน.บางชัน
แต่ก็ได้แบ่งกำลังลงพื้นที่ชุมชนคลองเตย เพื่อเฝ้าดูจนพบ นายสุไลมาน ชุดจับกุมจึงแสดงตัวเข้าจับกุมตัวได้พร้อมของกลางยาเคหนัก 5 กรัม และเงินสด 108,000 บาทในกระเป๋ากางเกง ทั้งนี้ ระหว่างที่เข้าจับกุมได้ถูกชาวชุมชนคลองเตยกว่า 100 คน ล้อมเจ้าหน้าที่เอาไว้ แต่ทางชุดปฏิบัติการสายตรวจ 191 นำกำลังเข้ามาช่วยควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ก่อนจะบานปลาย
จากการตรวจสอบยาเสพติดดังกล่าวเชื่อว่าน่าจะเป็นเครือข่ายคนดำและเครือข่ายเรือนจำ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการขยายผลการจับกุมเพิ่มเติมต่อไป
คดีนี้ชุดจับกุมสามารถตรวจยึดยาเสพติดของกลาง ทั้งยาบ้า ยาอี ยาเค (เคตามีน) พร้อมยึดทรัพย์สินรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค 2 คัน รวมแล้วมีมูลค่าถึง 60 ล้านบาท
ถือว่าเป็นผลงานสำคัญของการผนึกกำลังของชุดปราบปรามยาเสพติดบก.น.3 และชุดสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 รวมพลังกันเร่งปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ ก่อนปัญหาจะลุกลามบานปลาย เพราะล่าสุดพบว่าผู้ต้องหาที่จับกุมได้มีอายุน้อย อีกทั้งอายุเพียง 21 ปี ก็สามารถถือเงินสดเป็นหลักล้าน เพื่อแลกเปลี่ยนซื้อยาเสพติดได้แล้ว จึงทำให้ชุดปราบปรามยาเสพติดของบช.น.ต้องเร่งผนึกกำลังกวาดล้างให้สิ้นซาก
ผลงานดังกล่าวคือเครื่องการันตีที่จะแสดงให้เห็นว่า ตำรวจนครบาลจะไม่ยอมให้ ยาเสพติดเข้ามาแพร่ระบาดในพื้นที่เมืองหลวงได้ง่ายดายอย่างเด็ดขาด
