สันติ ประหร่ำภากรณ์ – เรื่อง/ภาพ
เหตุสยอง สามีจ่อยิงภรรยาและพ่อตาเสียชีวิต ก่อนใช้ปืนกระบอกเดียวกันระเบิด หัวตัวเองตายตามที่โรงพยาบาลนครปฐม สร้างความหวาดกลัวให้ผู้มาใช้บริการ ด้วย โรงพยาบาลที่ควรเป็นสถานที่ปลอดภัย แม้ขณะสงครามโรงพยาบาลยังเป็นสถานที่ต้องห้ามไม่ให้มีการโจมตี
แต่ไม่ทันได้ล้อมคอกป้องกันวัวหาย ก็มาเกิดเหตุสยองขึ้นอีก คราวนี้ที่โรงพยาบาล พระนั่งเกล้า จังหวัดนนทบุรี
ย้อนไปเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 26 มิ.ย. 2561 ร.ต.ท.หญิงสิตานัน โฉมวันดี สภ.รัตนาธิเบศร์ อ.เมืองนนทบุรี รับแจ้งมีเหตุ ยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บเเละเสียชีวิต ที่ห้องล้างไตทางช่องท้อง ภายในโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ถนนนนทบุรี ตำบลบางกระสอ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
ผู้หมวดสิตานัน รีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.นนทบุรี พ.ต.อ.วสันต์ บุญเจริญ พ.ต.อ.ณัฐพล ศุกระศร รอง ผบก. พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เที่ยงกมล ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พ.ต.อ.ศุภชัย ไตร สมบูณร์ ผกก.วท.จ.นนทบุรี พ.ต.ท.สมศักดิ์ รัศมีจันทร์ รอง ผกก.วท. พ.ต.ท.เมษนนท์ นาขวัญ รอง ผกก.ป. มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุพบศพ น.ส.ศิริขวัญ หรือ กุ๊ก ทองเล็ก อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่ธุรการห้องล้างไต นอนเสียชีวิตอยู่กับพื้นห้อง มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่แก้มขวา 1 นัด ท้อง 3 นัด ใต้ราวนมขวาอีก 1 นัด ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อ นายเกรียงไกร อยู่ไพร อายุ 41 ปี ทำงานเป็น เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 6 มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ขมับขวา 1 นัด เจ้าหน้าที่นำเข้าห้องฉุกเฉินเพื่อช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม.ของนายเกรียงไกรตกอยู่ เจ้าหน้าที่วิทยาการจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
พ.ต.อ.กิตติศักดิ์สอบถามพยานและเพื่อนร่วมงาน ทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นอดีตสามี ที่ผู้ตายจะขอเลิกเนื่องจากทนความหึงหวงไม่ไหว ขณะที่ผ่านมา นายเกรียงไกร พยายามง้อขอคืนดีหลายครั้ง แต่ผู้ตายไม่ยอมใจอ่อนคืนดีด้วย อีกทั้งผู้ตายเป็นคนหน้าตาดี จึงมีผู้ชายมาติดพันทำให้นายเกรียงไกรออกอาการหึงหวงรุนแรงบ่อยครั้ง
ก่อนเกิดเหตุนายเกรียงไกรเดินทางมาที่โรงพยาบาลและเข้าไปพูดคุยด้วย จากนั้นเดินออกมาก่อนที่จะย้อนกลับมาพร้อมด้วยอาวุธปืน เจ้าตัวไม่พูดพร่ำทำเพลง เดินเข้าไปยิงรัวเข้าใส่น.ส.ศิริขวัญอดีตภรรยา จำนวน 5 นัดซ้อน จนล้มลงเสียชีวิตคาที่ ก่อนที่จะใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงเข้าที่ศีรษะด้านขวา 1 นัด กระสุนทะลุออกทางฝั่งซ้ายอาการสาหัส
ขณะที่เพื่อนของผู้ตาย ซึ่งเป็นพนักงานใน ร.พ.พระนั่งเกล้ากล่าวว่า นายเกรียงไกรมักจะมาหา น.ส.ศิริขวัญเป็นประจำเพื่อขอคืนดี ซึ่งตนก็เคยเตือนให้ระวังตัว เนื่องจากผู้ตายหน้าตาดี และอดีตสามีรักมาก ช่วงเช้ามีคนเห็นนายเกรียงไกรมาหาผู้ตายที่ห้องทำงาน โดยนายเกรียงไกรเดินออกมาแล้วบอกกับตนว่า จะไปหาหมอตาที่นัดไว้ จนกระทั่งได้ ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายแรงขึ้น
อีกทั้งก่อนหน้านี้เคยเตือนผู้ตายหลายครั้งแล้วว่าเวลาคบหากับใคร ก็อย่านำไปลงใน เฟซบุ๊ก เกรงว่าจะมีปัญหากับอดีตสามี เพราะรู้มาว่านายเกรียงไกรเป็นคนอารมณ์ร้อน กลัวว่าจะเกิดปัญหา แล้วก็เกิดเรื่องขึ้นจริงๆ
ขณะที่อาการนายเกรียงไกรนั้นสาหัสหนัก สุดท้ายจึงเสียชีวิตลงในกลางดึกของคืน วันนั้นเอง
ต่อมาวันที่ 27 มิ.ย. ที่วัดมะเดื่อ หมู่ 9 ถนนรัตนธิเบศร์ ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ครอบครัวได้นำร่างของน.ส.ศิริขวัญ มาประกอบพิธีสวดพระอภิธรรม โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
นายวิเชียร ทองเล็ก อายุ 51 ปี พ่อน.ส.ศิริขวัญ เปิดเผยว่า กุ๊กเป็นลูกสาวคนโต เป็นเด็กเรียบร้อย นิสัยดี เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน ปกติลูกสาวจะเป็นคนไม่ค่อยพูด มีปัญหาอะไรจะไม่ยอมบอกทางบ้าน กุ๊กทำงานที่ร.พ.พระนั่งเกล้าได้ประมาณ 2 ปี ส่วนนาย เกรียงไกร เป็นคนที่ติดสุราอย่างหนักและขี้หึงมาก ก่อนเกิดเหตุประมาณ 3 เดือน ได้ไปหาตนที่บ้านแล้วสารภาพกับตนว่า มีปากเสียงกับกุ๊กและได้ทำร้ายตบตีจนกุ๊กทนไม่ได้ขอแยกทาง
bty
นายเกรียงไกรพยายามง้อขอคืนดีมาตลอด แต่ลูกสาวไม่ยอมกลับไปทนรับสภาพเหมือนที่เคยเจอมา จึงปฏิเสธที่จะกลับไปใช้ชีวิตคู่กันอีก ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือน กุ๊กบอกว่าจะกลับมาอยู่ที่บ้านกับพ่อแม่ ก็ไม่คิดว่าลูกสาวจะต้องมาจบชีวิตลงแบบนี้ กุ๊กถือเป็นเสาหลักของบ้าน ทำงานมาได้ก็ส่งเงินให้กับที่บ้านทุกเดือน และ ทุกอาทิตย์จะไปเยี่ยมพ่อเเม่เป็นประจำ ช่วยเก็บกวาดบ้าน ซักผ้าให้ พ่อให้เเม่ทำหน้าที่ลูกไม่มีขาดตกบกพร่อง
“ตอนนี้ผมและครอบครัวยังทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดกับลูกสาว ไม่ได้ คิดว่าการกระทำของนายเกรียงไกรมันโหดร้ายเกินไป อยากจะฝากถึงคู่รักที่มีปัญหากัน ให้หันหน้าคุยกันดีๆ และอยากให้นึกถึงตอนที่ยังรักกันให้มากๆ การตัดสินใจด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ไม่เป็นผลดีกับ ทั้งสองฝ่าย อีกทั้งยังมีคนข้างหลังที่ยังเสียใจอีกหลายคน” พ่อเหยื่อสาวกล่าวเสียงเศร้า
