อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล – เรื่อง/ภาพ
ไม่ว่าเป็นใครก็คงไม่อาจฝืนทนหน้าชื่นอกตรมอยู่ได้ หากรู้ว่าถูกเมียรักที่กอดนอนอยู่ทุกค่ำคืนมาสวมเขา โดนชายอื่นแอบมาตีท้ายครัว
เฉกเช่นหนุ่มใหญ่วัยเกษียณ ที่ต้องกลายเป็นฆาตกรเพราะบุกไปฆ่าชายชู้ ที่บังอาจมาเหยียบหน้ากันถึงถิ่น หลังแอบพาเมียรักของเขาไปนอนค้างที่รีสอร์ตไม่ไกลบ้าน
ข่าวเศร้าเรื่องผัวๆ เมียๆ คดีนี้ เกิดขึ้นเมื่อเกือบเที่ยงคืนวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.พศวัต ศิริพรนพคุณ สว.สอบสวน สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุแทงกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง พื้นที่ ม.8 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชโลธร เปรมปรี ผกก.สภ.สัตหีบ พ.ต.ต.ธนา วิเศษชัย สว.สส. และ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพร.พ.อาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน
ที่เกิดเหตุพบร่างนายธีรเดช (ขอสงวนนามสกุล) ชาวบ้าน ม.4 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ นอนหายใจรวยริน จมกองเลือดอยู่กลางถนนภายในรีสอร์ต สภาพถูกของมีคมแทงที่ลำคอและหน้าอกเป็นแผลฉกรรจ์รวม 3 แผล
เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพรีบปั๊มหัวใจหวังช่วยยื้อชีวิต แต่สุดท้ายนาย ธีรเดชก็สิ้นลมขาดใจตายในเวลาไม่กี่อึดใจ
ข้างร่างผู้เสียชีวิตยังพบมีดปลายแหลมยาว 1 ฟุต เปื้อนเลือดตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ใกล้ๆ กันเจ้าหน้าที่พบ นายศิริ (ขอสงวนนามสกุล) ชาวบ้าน ม.8 ต.บางเสร่ ผู้ก่อเหตุนั่งเหม่อลอย ในสภาพได้รับบาดเจ็บมีดบาดนิ้วมือทั้ง 2 ข้าง ร่างกาย เสื้อผ้า เปื้อนเลือดจนชุ่มโชก ห่างไปไม่ไกลพบหญิงสาวอายุ 47 ปี ภรรยานายศิริผู้ก่อเหตุ อยู่ในสภาพเสื้อผ้าเปื้อนเลือดไปทั้งตัว นั่งร้องไห้ ด้วยความตกใจกับเหตุการณ์สยองที่เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ
ส่วนภายในห้องพัก ที่อยู่ห่างไป 15 เมตร พบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เสื้อผ้า รองเท้า และร่องรอยการต่อสู้ และกองเลือดจำนวนมาก
ตํารวจรอให้เจ้าหน้าที่หน่วย กู้ชีพปฐมพยาบาลบาดแผลที่มือของนายศิริจนเสร็จ แล้วค่อยสอบปากคำ จนได้ความว่า ก่อนหน้านี้เจ้าตัวจับพิรุธของผู้ตายและภรรยาได้ สงสัยว่าทั้งคู่จะแอบสวมเขาให้ มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ต่อกัน แต่ยังจับไม่มั่นคั้นไม่ตาย
กระทั่งช่วงเช้ามืดวันเกิดเหตุ ภรรยาหายตัวไปและไม่สามารถติดต่อได้ จึบขับรถตระเวนเที่ยวตามหาไปทั่ว กระทั่งตกดึกมาเห็นรถกระบะของภรรยาจอดอยู่หน้าห้องพักที่รีสอร์ตดังกล่าว
นายศิริจึงจอดรถไว้หน้ารีสอร์ต เดินเข้าไปเคาะห้องพักดังกล่าว โดยถือมีดปลายแหลมไปด้วยเพื่อป้องกันตัว เพราะอีกฝ่ายอายุน้อยกว่ามาก
หลังสิ้นเสียงเคาะผู้ตายเปิดประตูออกมา ส่วนภรรยาสวมชุดนอนนั่งอยู่บนเตียง ทำให้นายศิริเกิดความโมโหและหึงหวงจึงมีปากเสียงกับ ผู้ตายอย่างรุนแรง ก่อนที่ผู้ตายจะวิ่งเข้ามายื้อแย่งมีด
นายศิริอ้างว่าผู้ตายพยายามแย่งมีดมาทำร้ายตน จึงต้องป้องกันตัวเองด้วย จนเกิดยื้อแย่งมีดกัน ทำให้อีกฝ่ายถูกแทงที่หน้าอกและลำคอ จึงวิ่งหนีออกไปหน้ารีสอร์ต แต่ไปได้แค่ 15 เมตรก็หมดแรงล้มลงกลางถนน เจ้าของรีสอร์ตเห็นเหตุการณ์จึงรีบโทรศัพท์แจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยมาตรวจสอบและช่วยเหลือดังกล่าว
พ.ต.อ.ชโลธร เปรมปรี ผกก.สภ.สัตหีบ เผยว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำบันทึกที่เกิดเหตุ ก่อนควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปสอบสวน พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธมีดติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาต” แก่นายศิริ
ส่วนที่ผู้ก่อเหตุอ้างว่า ไม่ได้ตั้งใจฆ่าผู้ตาย แค่ป้องกันตัว เนื่องจากผู้ตายพยายามเข้ามายื้อแย่งมีด ต้องไปแก้ต่างกับศาลสถิตยุติธรรมตามขบวนการต่อไป
อีกหนึ่งอุทาหรณ์ของเรื่องราวที่เริ่มต้นจากความรัก แต่ปิดฉากด้วยโศกนาฏกรรม
