วันชัย พุทธทอง – อนงค์ วงศ์ช่วย – เรื่อง/ภาพ
บ่ายโมงวันที่ 1 ส.ค. ที่หน้า สภ.เมืองสงขลา พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปรีดา เปี่ยมวารี ผบก.ภ.จว.สงขลา ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมคนร้ายคดียิง นายกมล สีนวน อายุ 46 ปี ผอ.กองช่าง ทม.สิงหนคร จ.สงขลา เสียชีวิต
ภายหลังจับกุมผู้ต้องหาได้ชนิดยกแก๊ง ประกอบด้วย นายจงเจริญ มณีรัตน์ อายุ 51 ปี รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสิงหนคร ซึ่งถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้จ้างวาน จ.ส.อ.ประวิทย์ หนูเจริญ อายุ 49 ปี ทหารในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คนจัดหามือปืน นายปรีชาพล คัทโธ อายุ 52 ปี ผู้ขับรถติดตาม ส่วนอีก 3 คน
ในทางสืบสวนเป็นมือปืนที่ลงมือก่อเหตุ มี นายอดุลย์ แดวอสนุง อายุ 45 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา นายสุไหมี อุเซ็ง อายุ 33 ปี ชาว จ.ยะลา และ นายมาหะมะ เจ๊ะแวสุหลง อายุ 46 ปี ชาว จ.ยะลา
ทั้ง 6 คน ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่อง กระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันสมควร ในขณะที่ นายจงเจริญ และ จ.ส.อ.ประวิทย์ ยังถูกแจ้งข้อหา เป็นผู้ใช้ ผู้จ้างวานเพิ่ม 1 ข้อหา โดยทั้งหมดยังคงให้การปฏิเสธ
คดีดังกล่าวเปิดเผยขึ้น เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 11 ก.ค. เมื่อร.ต.ท. พิชากร กองสวัสดิ์ ร้อยเวร สภ.เมืองสงขลา รับแจ้งเหตุยิงกัน บนถนนสายเกาะยอ-อ่างทอง พื้นที่หมู่ 2 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา ห่างจาก 5 แยกเกาะยอราว 3 กิโลเมตร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.เอกณรงค์ สวัสดิกานนท์ ผกก.สภ.เมืองสงขลา พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา ชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 9
ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีเทา ทะเบียน กษ 9712 สงขลา จอดอยู่ริมถนน ภายในรถมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย อยู่ที่เบาะนั่งคนขับ ทราบชื่อต่อมาคือ นายกมล สีนวน อายุ 46 ปี ผู้อำนวยการ กองช่าง ทม.สิงหนคร จ.สงขลา
ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิด ที่บริเวณลำตัวด้านขวา 6 นัด และที่ตัวรถมีรอยกระสุน 7 รู ที่กระจกหน้า 4 รู ประตูหน้าฝั่งคนขับ 1 รู และที่ประตูหลัง 1 รู ตรวจสอบในที่เกิดเหตุไม่พบปลอกกระสุนแต่อย่างใด
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า มีรถเก๋งสีทองไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน ขับประกบมาตั้งแต่สะพานติณสูลานนท์ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ คนร้ายได้จังหวะขับแซง และใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงในรถ จนกระสุนถูกนายกมล จนเสียชีวิตทันที
เบื้องต้นตำรวจตั้งประเด็นสั่งตายเอาไว้ 2 เรื่องคือเรื่องส่วนตัว และเรื่องงานภายใน ทม.สิงหนคร เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้ตายเคย ถูกสั่งย้ายไปช่วยราชการที่จ.สงขลา และเพิ่งกลับมาทำงานได้ไม่นานก็มาถูกยิงเสียชีวิต
กลับมาที่การแถลงข่าวพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เผยเบื้องหลังการจับกุมว่า พ.ต.อ. ศักดา เจริญกุล ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา พร้อมชุดสืบสวน สภ.เมืองสงขลา ชุดสืบสวน ภาค 9 และ ตำรวจกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การนำของ พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.6 บก.ป. ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ไล่มาตั้งแต่ขณะผู้ตายขับรถออกจากเทศบาลเมืองสิงหนคร จนมาถึงที่เกิดเหตุ รวมถึงเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี เป็นระยะทางร่วม 300 ก.ม.
พบว่ามีกล้องวงจรปิดหลายจุดบันทึกภาพกลุ่มคนร้ายเอาไว้ได้ โดยใช้รถ 3 คันขับติดตาม ชี้เป้า ก่อนมือปืนจะลั่นไกสังหารโหด เป็นรถเก๋งโตโยต้า รุ่นอัลติส สีเทา ทะเบียน 5-กต-1164 กทม. ซึ่งเป็นรถทีมมือปืนประกบยิงผู้ตาย รถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสัน รุ่นบิ๊กเอ็ม แบบตอนครึ่ง สีดำ ทะเบียน บต-4323 ปัตตานี ซึ่งเป็นรถที่ขับติดตามผู้ตาย และรถเก๋งโตโยต้า รุ่นอัลติส สีเทา ทะเบียน ขฉ-764 สงขลา ซึ่งเป็นรถที่คอยแจ้งความเคลื่อนไหว และขับตามมาตั้งแต่ออกจาก ทม.สิงหนคร
ตำรวจโยงข้อมูลจากรถทั้ง 3 คัน จนสามารถรวบรวมพยาน หลักฐาน ออกหมายจับผู้จ้างวานและทีมมือปืนได้ครบทั้ง 6 คน โดยชนวนเหตุการสังหารโหดมาจากความขัดแย้งระหว่าง ผู้ตายกับ ผู้บริหารเทศบาลคนหนึ่ง
เนื่องจากปี 2558 มีกลุ่มลูกจ้างเทศบาลร้องทุกข์กล่าวหาผู้บริหาร คนนี้ ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ โดยผู้ตายเป็นพยานในเรื่องนี้ด้วย และผู้บริหารคนนี้ได้เคยแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ตาย ข้อหาทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
ก่อนผู้ตายถูกคำสั่งย้ายไปปฏิบัติหน้าที่อื่นในจ.สงขลา ส่วนนาย จงเจริญและจ.ส.อ.ประวิทย์ มีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้บริหารคนนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผล ว่าจะมีใครเกี่ยวข้องด้วยอีก หรือไม่
ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น ครอบครัวผู้ตายได้เข้ามอบช่อดอกไม้ แสดงความขอบคุณ ที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาเพียง 19 วัน
