ประกาศ ศรีสมบูรณ์ – เรื่อง/ภาพ
สามทุ่มวันที่ 6 ก.ย. พ.ต.ท.วรวุทธิ์ ท่านมุข สว.สส.สภ.เมืองยโสธร นำกำลังอีก 3 นาย ขับรถกระบะ 4 ประตูของชุดสืบสวน ตระเวนออกตรวจตราตามจุดล่อแหลมและกลุ่มเป้าหมาย ตามนโยบายกวาดล้างจับกุมคดียาเสพติด
ขณะขับมาถึงบริเวณด้านหน้าอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น เลขที่ 107/3 ถนนศรีบำรุง ต.ในเมือง อ.เมืองยโสธร พบนายวีระยุธพงษ์ หรือ ท็อป สาธุชน อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 ถนนเทพมณี ต.ในเมือง อ.เมืองยโสธร นั่งคุย กันกับเพื่อนอยู่บนรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าอาคารพาณิชย์
เจ้าหน้าที่ตำรวจจำได้ว่าเป็นนายท็อป ซึ่งเป็นบุคคลเป้าหมาย ที่เคยมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และมักจะพกพาอาวุธปืนอยู่เป็นประจำ จึงได้จอดรถเพื่อขอตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย ส.ต.ต.สะท้านฟ้า รักษาศิริ ซึ่งนั่งอยู่ด้านหลังคนขับฝั่งขวา เปิดประตูรถลงไปก่อน พร้อมกับเดินเข้าไปหานายท็อปเพื่อจะขอตรวจค้น
แต่ไม่มีใครคาดคิด นายท็อปกลับชักอาวุธปืนพกสั้นที่พกติดตัวมายิงใส่ส.ต.ท.สะท้านฟ้าในระยะเผาขน กระสุนเจาะเข้าที่ปากไปฝังอยู่ที่ต้นคอทางด้านหลัง เจ้าตัวล้มลงกับพื้นทันที จากนั้นนายท็อปหันปลายกระบอกปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปด้วยกันอีก 2 นัด แต่ไม่ถูกใคร
ก่อนที่จะวิ่งหลบหนีเข้าไปภายในชุมชนคุ้มบ้านใหม่ใกล้กับที่เกิดเหตุ ท่ามกลางความมืด เจ้าหน้าที่ตำรวจแบ่งกำลังควบคุมตัวพวกที่นั่งคุยอยู่ พร้อมวิ่งไล่ติดตามมือปืนไปแต่ไม่ทัน จึงย้อนกลับมารีบนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลยโสธร
พล.ต.ต.อนุพันธ์ จันทร์พฤกษ์ ผบก.ภ.จว.ยโสธร พ.ต.อ.ประภาส มั่งคั่ง ผกก.สส.ภ.จว.ยโสธร พ.ต.ท.อนุสรณ์ วรรณพิณ สว.กก.สส.ภ.จว.ยโสธร พ.ต.ท.มิตรชัย บุญล้ำ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองยโสธร รีบลงพื้นที่ทันทีที่รับแจ้งเหตุร้าย
พล.ต.ต.อนุพันธ์สั่งการให้ระดมกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารกว่า 50 นายออกค้นหาตัวผู้ก่อเหตุภายในชุมชนคุ้มบ้านใหม่ โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านเลขที่ 34 ซอยเทศบาล 5 คุ้ม บ้านใหม่ ต.ในเมือง อ.เมืองยโสธร
ซึ่งนายท็อปเข้าไปหลบอยู่ภายในบ้านของชาวบ้าน พร้อมกับทิ้งอาวุธปืนขนาด .38 ที่ใช้ก่อ เหตุเอาไว้บริเวณด้านหลังบ้าน และพบกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 6 นัด ถูกยิงไปแล้วจำนวน 3 นัด ทิ้งอยู่หลังห้องน้ำบ้านหลังดังกล่าว
นายวีระยุธพงษ์รับสารภาพ แต่อ้างว่าไม่ทราบว่าเป็นตำรวจ คิดว่าเป็นคู่อริตามมาเอาเรื่อง เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องชกต่อยกันกับกลุ่มวัยรุ่นที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง และมักจะถูกกลุ่มวัยรุ่นไล่ทำร้ายอยู่เป็นประจำ จึงได้หาซื้ออาวุธปืนมาพกเพื่อป้องกันตนเอง โดยซื้อมาจากเพื่อนคนรู้จักกันในราคา 4,000 บาท
เบื้องต้นจากการตรวจสอบประวัติพบว่า เจ้าตัวมีนิสัยเกเร ชอบพกพาอาวุธปืนและยิงปืนภายในชุมชนอยู่เป็นประจำ เคยถูกจับกุมเกี่ยวกับอาวุธปืนมาก่อนถูกศาลสั่งจำคุกเป็นเวลา 1 ปี และเพิ่งจะพ้นโทษออกมาเมื่อพ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจจึงควบคุมตัวไปสอบสวนให้ละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะแจ้งข้อหา “พยายามฆ่าเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่”
หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.วรวุทธิ์ ท่านมุข สว.สส.สภ.เมืองยโสธร ผู้บังคับบัญชาของ ส.ต.ต.สะท้านฟ้า ได้เขียนข้อ ความสดุดีในความกล้าหาญและเด็ดเดี่ยวในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ พร้อมเล่าเหตุการณ์ขณะถูกนำตัวลูกน้องส่งโรงพยาบาล
เจ้าตัวระบุว่า “3 ประโยคที่ผมจะไม่ลืมจนเกษียณ ผมเป็นคนแบกร่าง ส.ต.ต.สะท้านฟ้ามาที่โรงพยาบาล มันบ่นทั้งเลือดกบปากตลอดทางว่า ผมขอโทษ สารวัตรบอกพ่อให้ผมด้วย ผมพยายามชวนมันคุยให้มันรู้สติตลอดทาง ยังใจชื้นที่มันทำสัญญาณมือหรือพยักหน้าทุกครั้งที่ผมถาม 5 ก.ม. รถวิ่งนานเหมือนช.ม. ถึงห้องฉุกเฉินมันทำมือขอปากกาเขียน 3 ประโยคนี้ ผมหนาว จับได้ไหม ผมจะรอดไหม
คนประเภทไหนถามเรื่องงาน ก่อนเรื่องชีวิตตัวเอง คุณเชื่อเถอะว่ายังมีคนแบบนี้และตำรวจแบบสะท้านฟ้าอยู่อีกมากมายที่ทำให้เรายังอุ่นใจได้ว่า จะมีคนคอยออกหน้าปะทะกับศัตรูของสังคมอยู่เสมอ ผู้ต้องหามีคดีติดตัวอยู่กว่า 9 คดี ยาเสพติด อาวุธปืน พรากผู้เยาว์ ทำผิดซ้ำซาก ถูกขังแล้วก็ถูกปล่อยออกมาอยู่ปะปนกับพวกเรา
ฮีโร่ที่ยังไม่ตาย หายใจไว้นะ สารวัตรขอโทษจริงๆ ฟ้า ที่เคยบอกว่า เราออกทำงานกันทุกวัน จะยังไงพวกเราต้องกลับบ้านนอนกันทุกคน วันนี้ ฟ้าได้นอนอยู่ร.พ.แทน พระคุ้มครองนะ วันนี้หนักจริงๆ ส.ต.ต.สะท้านฟ้า รักษาศิริ #ขอบคุณพี่หมอกบ ทีมงานแพทย์พยาบาลที่ดูแลเราเป็นอย่างดีครับ ขอบคุณท่านผู้การ ผู้บังคับบัญชาทุกท่าน ที่ดูแลอย่างใกล้ชิดครับ
ต่อมาวันที่ 11 ก.ย. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. (ปป) พร้อมด้วยพล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.อนุพันธ์ จันทร์พฤกษ์ ผบก.ภ.จว.ยโสธร และคณะผู้บังคับบัญชา เดินทางเยี่ยมอาการส.ต.ต.สะท้านฟ้าที่ร.พ.ยโสธรเพื่อให้กำลังใจ ขณะที่อาการตร.ฮีโร่พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังต้องรอให้ร่างกายแข็งแรงก่อนจึงจะผ่าตัดเอากระสุนออกอีกครั้ง
ล่าสุดพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.สั่งการให้นำตัวตร.ฮีโร่ขึ้น ฮ.มารักษาตัวต่อที่ ร.พ.ตร. ต่อไปแล้ว
