ย้อนคดีสยองพระประแดง เชือดคอฆ่ายาย-หลาน12ปี จนมุมริมโขงก่อนเผ่นลาว

สดจากสนามข่าว

ย้อนคดีสยองพระประแดง – เหตุการณ์ฆ่าปาดคอ 2 ยายหลาน นับเป็นเหตุการณ์สยอง ที่เกิดขึ้นในพื้นที่อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เพราะคนร้ายลงมือโหดเหี้ยม กะจะฆ่าให้ตายยกบ้านแม้แต่แมวที่เจ้าของบ้านเลี้ยงเอาไว้ก็ถูกเชือดคอจนตาย ยังดีที่ด.ญ.อายุ 9 ขวบ แม้จะถูกทำร้ายสาหัส แต่ก็ยังรอดชีวิตมาได้

เรื่องราวสยองถูกดเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 06.30 น. ของวันที่ 16 ก.ย. โดยร.ต.อ.ชาย พลศรี พนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง รับแจ้งมีผู้ถูกฆ่าปาดคอ ภายในซอยเพชรหึงษ์ 23 ต.บางยอ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุทธิโรจน์ ไกรวชิรสิทธิ์ ผกก.สภ.พระประแดง ชุดสืบสวน และอาสาสมัครป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุห่างจากถนนเพชรหึงษ์ ประมาณ 500 เมตร พบอาคารให้เช่า 2 ชั้น เปิดเป็นร้านขายของชำ ห่างกันเล็กน้อย ที่บ้านเลขที่ 53/21 พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นด.ญ.อายุ 9 ขวบ ถูกมีดปาดลำคอด้านขวาได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงเร่งนำส่งโรงพยาบาลบางปะกอก 3

ขณะที่ภายในบ้าน พบผู้เสียชีวิต 2 ราย โดยบนที่นอนพบศพ ด.ญ.อายุ 12 ปี สภาพนอนหงาย ส่วนในห้องน้ำพบศพนางมะลิ อิ่มสวัสดิ์ อายุ 67 ปี ตรวจสอบพบว่า กระเป๋าของนางมะลิถูกรื้อค้น รวมทั้งภายในบ้านก็ถูกค้นกระจุยกระจาย สอบถามญาติ พบว่าสร้อยคอทองคำยังไม่ทราบขนาดหายไปหนึ่งเส้น

จากการสอบถามพยานซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน ให้การว่า จะมาซื้อน้ำแข็งที่ร้านขายของชำของนางมะลิ แต่พบ นายพูล้า แรงงานต่างด้าวชาวลาว ซึ่งมาเช่าห้องพักอยู่ใกล้ๆ นั่งอยู่ในบ้าน จึงถามว่าเข้ามาบ้านยายได้อย่างไร นายพูล้า อ้างว่ายายให้มานอนเป็นเพื่อน

ขณะเดียวกันได้ยินเสียงเด็กร้องขอความช่วยเหลือ จึงไปเรียกเพื่อนบ้านอีกรายพากันขึ้นไปดู จึงพบว่ายายกับหลานเสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน ส่วนด.ญ.วัย 9 ขวบบาดเจ็บอยู่ เมื่อออกมาดูอีกครั้งพบว่านายพูล้าหลบหนีไปแล้ว

ตร.ไปตรวจสอบที่ห้องเช่า ก็พบเอกสารหนังสือเดินทางของนายพูล้า ระบุว่าเจ้าตัวอายุ 22 ปี อยู่บ้านโพนสิม เมืองไกสอนพมวิหาน แขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว โดยหลังก่อเหตุได้ขโมยรถจยย.ของเพื่อนบ้านหลบหนีไป จึงไล่เช็กกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง ก่อนจะพบรถจยย. ที่ขโมยมา จอดทิ้งอยู่ที่ห้างดังย่านพระประแดง

เชื่อว่าอย่างไรเสีย คนร้ายรายนี้ต้องหาทางหนีข้ามกลับไปประเทศลาวแน่นอน พ.ต.อ.สุทธิโรจน์จึงประสาน พ.ต.อ.โกเมน สุภาพ ผกก.ตรวจคน เข้าเมืองมุกดาหาร ให้ช่วยจับตาดู โดยเฉพาะช่องทางธรรมชาติ เนื่องจากคนร้ายไม่มีหนังสือเดินทาง

พ.ต.อ.โกเมนสั่งการให้พ.ต.ท. ธีรวัฒน์ ทิพย์ธนาวิวัฒ รอง ผกก. พ.ต.ท.อุดร ชาวแขก สว.ตม.มุกดาหาร พร้อมด้วย ร.ต.อ.คณากร โมลีย์ ร.ท.พรพิทักษ์ กุลงามกิ่ม ผบ.ร้อย ทหารพรานที่ 2110 ตำรวจน้ำ และนรข.มุกดาหาร พร้อมชุดสืบสวนตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร จัดชุดลาดตระเวนตามริมฝั่งแม่น้ำโขงและช่องทางธรรมชาติ

กระทั่งค่ำวันที่ 17 ก.ย. เจ้าหน้าที่พบนายพูล้ากำลังนั่งดื่มเบียร์ที่ร้านขายของชำบริเวณบ้านนาโปน้อย ริมฝั่งแม่น้ำโขง เขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร จึงเข้าจับกุมก่อนนำตัวมา สอบสวน จนยอมรับสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุสยองจริง

นายพูล้าให้การว่า เมื่อเวลา 03.00-04.00 น. วันที่ 16 ก.ย. ตนปีนเข้าไปภายในบ้านของยายหลานผู้เสียชีวิต เข้าไปในบริเวณห้องครัว และเห็นแมว จึงหยิบมีดทำครัวมาปาดคอแมว เนื่องจากมันร้องเสียงดัง แล้วรื้อค้นทรัพย์สิน ระหว่างนั้น ยายออกมาเจอตนพอดี จึงใช้มีดทำครัวปาดคอยายจนล้มลง แล้วตามไปปาดด.ญ.อายุ 12 ปี และ 9 ขวบอีก 2 คนก่อนหลบหนีมา

นายพูล้ายังยอมรับอีกว่า ก่อนก่อเหตุได้เสพยาบ้าเข้าไป 1 เม็ด จนเมายาบ้า และอยากได้เงินไปซื้อยามาเสพอีก เนื่องจากบ้านของยาย เปิดเป็นร้านขายของ คิดว่าน่าจะมีเงินเยอะ และเคยเห็นยายใส่สร้อยคอทองคำ จึงคิดว่าจะมาขโมยเงินยายไปซื้อยาบ้าเสพ

หลังก่อเหตุได้นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างจากหน้าปากซอย มาลงหน้า บิ๊กซีพระประแดง แล้วนั่งแท็กซี่มาที่หมอชิต ลงมาซื้อกางเกง เสื้อ และรองเท้าเปลี่ยน จากนั้นขึ้นรถทัวร์มาที่ จ.ยโสธร โดยตนบอกคนขับรถว่า ไม่มีบัตร ให้ช่วยพาไปขายทองก่อนได้เงินมา 7,500 บาท จ่ายให้คนขับรถทัวร์ 300 บาท ค่ารถจักรยานยนต์ 100 บาท

จากนั้นคนขับรถทัวร์พามาซื้อตั๋วเดินทางต่อมา จ.มุกดาหาร แล้วมาติดต่อจ้างคนขับรถสามล้อ ให้ช่วยหาคนพาข้ามไปฝั่งลาว คนขับคิดราคา 1,200 บาท และได้มาส่งที่ร้านขายของชำ ก่อนจะซื้อเบียร์นั่งกินหมดไป 6 ขวด เพื่อรอเรือข้ามไปฝั่งแขวง สะหวันนะเขต กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตามจับกุมได้ในที่สุด

เวลา 14.00 น. วันที่ 18 ก.ย. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. นำตัวนายพูล้า มาแถลงข่าวพร้อมทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยจำลองเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตุ๊กตา 2 ตัว มาใช้ประกอบระหว่างการทำแผน

โดยนายพูล้าแสดงท่าทางการฆาตกรรมโหด 2 ยายหลาน บีบคอ ด.ญ.วัย 12 ปี ไม่ให้ร้องไห้ ก่อนจะใช้มีดปาดลำคอ ก่อนจะหันไปปาดคอยาย จนเสียชีวิตทั้งคู่ หลังก่อเหตุจึงได้หยิบกระเป๋าเงินแล้วหลบหนีไป

ฆาตกรโหดถูกคุมตัวไปดำเนินคดี ท่ามกลางกระแสเรียกร้องให้ลงโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต

อ่านต่อ:

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน