สดจากสนามข่าว

ชำนาญ ใจเอื้อ – เรื่อง/ภาพ

หากต้องการให้ไทยเป็นเมืองท่องเที่ยว แน่นอนว่าการสร้างความเชื่อมั่นให้เหล่านักท่องเที่ยว ย่อมต้องถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จึงไม่แปลกที่เมื่อมีเหตุการณ์นักท่องเที่ยวสาวชาวจีนหายตัวไปอย่างลึกลับ หลังมาเที่ยวภายในสวนเสือศรีราชา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ทุกส่วนจึงระดมกำลังกันออกตามหาตัวกันอย่างจ้าละหวั่น

เพราะมันส่งผลถึงชื่อเสียงและความเชื่อมั่นของประเทศไทยในสายตา นักท่องเที่ยวต่างชาติโดยตรง โชคดีที่เหตุการณ์จบลงด้วยดี ไม่ต้องเกิดความสูญเสีย

เหตุการณ์ดังกล่าวเปิดเผยขึ้นเมื่อเย็นวันที่ 11 ก.ย. 2559 เมื่อ นายจิงหยา แซ่จ๋าว อายุ 30 ปี ไกด์นำเที่ยวชาวจีน วิ่งกระหืดกระหอบมาแจ้งกับพนักงาน ประจำสวนเสือศรีราชา จ.ชลบุรี ว่า นางเกาลี่ผิง อายุ 36 ปี นักท่องเที่ยว คนหนึ่งในกรุ๊ปทัวร์ของตนหายตัวไป ไม่กลับมาขึ้นรถที่จอดรออยู่พร้อมกับเพื่อนๆ ร่วมก๊วนคนอื่นๆ

นายจิงหยาให้ข้อมูลว่านางเกาลี่ผิง แต่งกายด้วยเสื้อยืดสีขาวแขนสั้น กางเกงขาสั้นสีแดง สวมรองเท้าผ้าใบ สีขาว ใส่หมวกปีกกว้างกันแดดสีชมพู สะพายเป้ สีดำ หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่จึงประกาศเสียงตามสาย พร้อมกับวิทยุแจ้งให้พนักงานเกือบ 200 คน ช่วยกันสอดส่องหาตัว

แม้นจะพยายามตามหาตัวเช่นไร ก็ไม่พบ จึงมานั่งไล่ตรวจสอบภาพ จากกล้องวงจรปิดที่มีอยู่ทั่วสวนเสือ กระทั่งพบภาพนางเกาลี่ผิงบริเวณ หน้าส่วนแสดงโชว์จระเข้ นายจิงหยาตัวสินใจแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. หนองขาม พื้นที่รับผิดชอบ ให้นำกำลังมาร่วมกันค้นหาแต่หากันจนดึกก็ ไม่พบตัว

1

รุ่งขึ้นเวลา 09.00 น. ของวันที่ 12 ก.ย. นายวรญาณ บุญณราช นายอำเภอศรีราชา พร้อมด้วย พ.ต.อ. ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.หนองขาม น.ส.นริศรา ทิพยางกูร ปลัดอำเภอศรีราชา

ร่วมกันประชุมเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน ตำรวจสภ.หนองขาม ทหารคสช.ประจำอำเภอศรีราชา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเพียวเยี้ยงไท้ศรีราชา รวม 200 นาย ก่อนจัดแบ่งกำลังออกค้นหาภายในสวนเสือ เพื่อหาตัวนางเกาลี่ผิง อีกครั้งหนึ่ง

พ.ต.อ.ชนพัฒน์เปิดเผยว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่ ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองอำเภอศรีราชา และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยกว่า 200 นาย ออกค้นหาอีกครั้ง พร้อมกับการตั้งศูนย์ ศปก.(สน)สภ.หนองขามขึ้น

นายจิงหยาไกด์นำเที่ยว ให้ข้อมูลเพิ่มว่านางเกาลี่ผิง มาซื้อทัวร์เที่ยวในชลบุรีตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย. เพียงคนเดียว จนเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 11 ก.ย. ได้พามาเที่ยวที่สวนเสือพร้อมกับเพื่อนๆ ทัวร์ชาวจีนอีก 37 คน กระทั่งถึงเวลากลับไม่พบเจ้าตัวกลับมาขึ้นรถ จึงเดินตามหาแต่ไม่พบก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่สวนเสือศรีราชาให้ช่วยตามหา

ทั้งนี้พูดคุยสอบถามนักท่องเที่ยวที่ร่วมก๊วนทัวร์ พบว่าเจ้าตัวมีอาการซึมเศร้า ไม่พูดจา เหม่อลอย กับเพื่อนที่นั่งมาในรถก็ไม่พูดคุยด้วยแต่อย่างไร

ต่อมา พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เดินทางไปยังศูนย์ปฏิบัติการส่วนล่วงหน้า สภ.หนองขาม เพื่อสอบถามความคืบหน้า ก่อนสั่งการให้ระดมกำลังชุดควบคุมฝูงชนทุกสภ.ในสังกัดภ.จว.ชลบุรี 23 สถานีตำรวจกว่า 150 นาย มารวมกันที่สวนเสือศรีราชา เพื่อสนธิกำลังปูพรมเดินหน้าค้นหาอีกครั้ง

2

พล.ต.ต.อำพลเผยว่าทราบคร่าวๆ ว่า ผู้สูญหายมีอาการซึมเศร้า เหม่อลอย จึงเกรงว่าเจ้าตัวอาจคิดสั้น แต่ทางเราก็จะค้นหาต่อไปจนกว่าจะทราบความจริง

หลังการค้นหาทั้งวันต้องคว้าน้ำเหลว กับข้อมูลใหม่ที่ได้ว่าเจ้าตัวมีอาการซึมเศร้า หลายคนกังวลว่าเจ้าตัวอาจคิดสั้น ฆ่าตัวตายโดยการ กระโดดลงในบ่อจระเข้ ซึ่งหากเป็นจริงชื่อเสียงของทั้งสวนเสือและการท่องเที่ยวไทยกระทบใหญ่แน่

แต่แล้วเรื่องราวก็คลี่คลายด้วยดี เมื่อวันรุ่งขึ้น มี นายสุทัศน์ ศรีวัฒนะ อายุ 54 ปี ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ กับสวนเสือแจ้งว่า พบผู้หญิงกำลังนั่งซักผ้าอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้าน จึงเดินเข้าไปสอบถาม ก่อนจะพบว่าเจ้าตัวพูดภาษาจีน จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนที่สูญหายไป

เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบก็พบว่าเป็นนาง เกาลี่ผิงจริงๆ โดยเจ้าตัวอยู่ในอาการหวาดกลัว เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเกลี้ยกล่อมอยู่นาน จึงยอมนั่งรถโรงพยาบาลมา ที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนล่วงหน้า สภ.หนองขาม ซึ่งตั้งอยู่ภายในสวนเสือ ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลพญาไทศรีราชา เพื่อให้แพทย์ตรวจอาการ

พบเจ้าตัวมีอาการอ่อนเพลีย เพราะไม่ได้กินข้าวเลยตั้ง 2 วัน โดยนางเกาลี่ผิงเผยผ่านล่ามว่า มีปัญหาครอบครัวทำให้สับสนในชีวิต จึงอยากหนีไป โดยลอดรั้วลวดหนามของสวนเสือเข้าไปในป่าที่รกร้าง เดินเท้าหลงในป่าอยู่ 2 วัน จนมีคนไปพบดังกล่าว

นางเกาลี่ผิงถูกส่งตัวให้กับสถานทูตจีนรับกลับไป ท่ามกลางความโล่งใจของทุกคน ที่เรื่องราวไม่เลวร้ายอย่างที่คิด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน