ตามกองปราบลุยจับมือปืน ฆ่าน้าชายนักร้องดัง‘บ่าววี’ ปิดล้อม2วันกดดันมอบตัว
เรื่อง/ภาพ โดย รัตนชัย จึงชนะ, เมธี เมืองแก้ว, ธานี ทวีเกิด
ตามกองปราบลุยจับมือปืน : คดีที่คนร้ายประกบยิง “บังหมุด โคกทราย” จนเสียชีวิตเมื่อค่ำวันที่ 6 ส.ค. ที่ผ่านมา เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 6 บ้านโคกทราย ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง พื้นที่ สภ.ในควน เป็นข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับ
บังมุด โคกทราย ถูกยิงดับ
ประการหนึ่งเพราะ บังหมุด หรือ นายดรุณ ฤทธิ์หมุน เป็นพ่อค้าชำแหละเนื้อวัวส่งขายตามตลาดนัดรายใหญ่ของเมืองตรัง อีกประการคือ เจ้าตัวเป็นน้าชายของนักร้องดัง “บ่าววี อาร์สยาม” หลังเกิดเหตุ ตำรวจพุ่งปมสังหารไปที่ความขัดแย้งส่วนตัว แต่ก็ไม่ตัดทิ้งประเด็นที่ลูกชายพัวพันเครือข่ายยาเสพติด จนถูกคุมตัวในคุก 2 คน และถูกยิงตายคาโรงเชือด 1 ราย เมื่อวันที่ 21 ก.พ.2559 ซึ่งคดีดังกล่าวไม่มีความคืบหน้าในการติดตามตัวคนร้าย
ขณะที่ “บ่าววี อาร์สยาม” หรือ พ.อ.อ.วีรยุทธิ์ นานช้า อดรนทนไม่ไหว ต้องออกมาโพสต์เฟซบุ๊กเดือดขอความเป็นธรรม ระบุว่าผู้ตายเป็นน้าชาย และหลานชายเพิ่งโดนฆ่าไปเมื่อไม่นาน พร้อมกับลงคลิปพิธีฝังศพแบบมุสลิม
โดยข้อความระบุว่า “สมใจกันยังคนยิง…คนตายคือน้าบ่าวผมน้องของมะผม…ฝากเจ้าหน้าที่บ้าน เมือง ติดตามคนร้าย..ด้วยครับ อย่าให้ต้องมีการสูญเสียอีก…ไม่ยากครับ คดีนี้…ถ้าตำรวจเอาจริง..ฝากอีกครั้งก่อนจะเป็นเมืองเถื่อน…เข้าใจนะ ครับ#ลูกแกก็ถูกยิงคดีเงียบ นี้มาแกอีก เอาจริงสักทีนะครับ..”
นอกจากนี้ ยังระบุอีกว่า “เอาที่บายใจ..#บ้านเมืองนี้ สูหมุดเพิ่งเสียลูกชาย ถูกยิง 1 คน ติดคุก 2 คน แล้วนี่มายิงสูหมุดอีก..จะหมดบ้านแล้ว ไม่สมควรมายิงคนพิการอย่างสูหมุด เดินก็ขาเป๋ จะเอาอะไรแกอายุแกก็เยอะแล้ว อยู่แต่มัสยิด ขายวัวไปวันๆ ทำกันได้ฝากตำรวจท้องที่และเมืองตรัง อย่าให้ต้องยาวไปกว่านี้…เข้าใจนะคำนี้…ทุกชีวิตมีค่าเหมือนกัน..#ฝาก แจ้งถึงญาติๆ ฝังบ่ายๆ นะสูหมุด”
นักร้องบ่าววีขอบคุณกองปราบฯ
ผ่านมาร่วม 2 เดือน คดีที่ภายนอกดูเหมือนจะไม่มีความคืบหน้า แต่ความจริงแล้วตำรวจท้องที่ ทั้งสืบโรงพัก สืบจังหวัด สืบภาค มีการประสานข้อมูลกับชุดสืบสวนกองปราบปราม จนทราบว่าปมสังหารมาจากความขัดแย้งบางอย่างของผู้ตายกับพรรคพวกของผู้บงการ จนนำมาสู่คำสั่งตาย
ตำรวจขออนุมัติหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาจำนวน 3 คน ประกอบด้วย นายชัยสิทธิ์ เส็นฤทธิ์ กำนันตำบลโพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง นายจำนงค์ รัตนพันธ์ และ นายไพโรจน์ เส็นฤทธิ์ ซึ่งเป็นญาติกับนายชัยสิทธิ์
ต่อมาวันที่ 24 ต.ค. นายชัยสิทธิ์ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งปฏิเสธตลอดทุกข้อหา นอกจากนี้นายจำนงค์ ยังเป็นผู้ต้องหารายสำคัญ อยู่ในบัญชีรายชื่อมือปืนกลุ่ม 2 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีเงินรางวัลนำจับ 50,000 บาท หลังพัวพันคดียิงนายกอบต.อำนาจเจริญ, คดียิงนักธุรกิจมาเลเซียในพื้นที่ จ.สตูล และอีกหลายคดี
เช้าวันที่ 27 ต.ค. พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง รอง ผบช.ก. รรท.ผบช.ก., พ.ต.อ. จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป. รรท. ผบก.ป., พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบก.ป, สั่งการให้พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ รอง ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.ภาดล จันทร์ดอน รอง ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล รอง ผกก.6 บก.ป. เจ้าพนักงานชุดจับกุม กก.6 บก.ป. นำโดย พ.ต.ท.กริช วรทัต, พ.ต.ท.ปิยพล แป้นแก้ว สว.กก.6 บก.ป.
ตร.ปฏิบัติการปิดล้อมจับมือปืน
ร่วมกับกำลังทหารนำโดย ร.ท.ชัยยศ คงกะพันธ์ ผู้บังคับหมวดปืนเล็กที่ 3 กองร้อยทหารราบเคลื่อนที่เร็ว กองกำลังเทพสตรี (หน่วยเฉพาะกรมทหารราบที่ 5) นำกำลังลงพื้นที่บ้านขุมทรัพย์ ต.ป่าแก่บ่อหิน อ.ละงู จ.สตูล เปิดปฏิบัติการปิดล้อมจับกุมตัวนายจำนงค์ หลังได้ข่าวว่าหนีมากบดานที่บ้านพ่อ-แม่ แต่เจ้าตัวไหวตัววิ่งหลบหนีเข้าป่ายางพาราไปก่อนเจ้าหน้าที่จะเข้าถึงตัว
ตำรวจตรึงพื้นที่ปิดล้อมอยู่ 2 วัน ทั้งเจรจาผ่านภรรยาจนในที่สุดนายจำนงค์ ก็ยอมออกมามอบตัวกับตำรวจ ที่บนเขา หมู่ 1 ต.ป่าแก่บ่อหิน อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล ในวันที่ 29 ต.ค.
นายจำนงค์ รัตนพันธ์ ยอมมอบตัว
จากการสอบสวนนายจำนงค์ อ้างว่าจังหวะที่เจ้าหน้าที่จู่โจมนั้นนั่งอยู่บนเปล ด้วยความตกใจจึงรีบหมอบคลานหลบหนีไปในสวนยางพารา โดยระหว่างนั้นหนีไปอยู่บนเขาและถูกกดดันอย่างหนัก จึงแจ้งกับภรรยาว่าจะมอบตัว พร้อมให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
คุมตัวสอบยังปฏิเสธ
ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปค้นหาหลักฐาน และอาวุธปืน ที่บ้านใน จ.ตรัง ก่อนส่งตัวให้ตำรวจ สภ.บ้านควนใน ดำเนินคดีโดยนายจำนงค์ มีสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีอาการเครียดหรือวิตกกังวล ยังพูดจากับญาติพี่น้องได้ตามปกติ
ขณะที่นายไพโรจน์ เส็นฤทธิ์ ผู้ต้องหาอีกราย ทางกองปราบฯ ทราบว่า หลบหนีเข้าพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยได้จัดส่งกำลังเข้าประกบแกะรอยอย่างไม่ลดละแล้ว
